Sunday, 20 May 2012

การเขียนรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจพม่า


ตั้งแต่เดือนที่แล้วโจเริ่มวิจัยและเขียนรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจพม่า (เมื่อโจเขียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศพม่าในไดอารีโจเขียนว่าถ้าโจจะเขียนรายงาน อยากจะเขียนสิ่งที่รายงานอื่นยังไม่ค่อยเขียน)
ตอนนี้โจวิจัยและเขียนเกี่ยวกับการนำเข้ากับส่งออก สถิติของประเทศพม่าบอกว่าการส่งออกมีมากกว่าการนำเข้าและรายงานสว่นใหญ่ใช้ข้อมูลนี้และคาดว่าการเกินดึลการค้านี้จะเพิ่มขึ้นต่อไป 
แต่โจคิดว่าข้อมูลของประเทศพม่าไม่ถูกและตอนนี้มีการนำเข้ามากกว่าการส่งออก และการขาดดุลการค้านี้จะเพิ่มขึ้น
โจคิดแบบนี้เพราะสถิติของประเทศอื่นบอกว่าประเทศอื่นส่งออกมากกว่าที่สถิติพม่าบอกการเพิ่มขึ้นของการส่งออกจะใช้เวลานานเพราะสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ(เช่นคุณภาพโครงสร้างพื้นฐาน ระบบธุรกิจสำหรับบริษัทต่างประเทศเป็นต้น)ยังไม่ค่อยดีในขณะที่การนำเข้าอาจจะเพิ่มขึ้นมากในระยะสันเพราะรัฐบาลกำลังลดการจำกัดการนำเข้าอยู่ 
โจก็เลยคิดว่าประเทศพม่าอาจจะมีปัญหาที่มาจากการขาดดุลการค้า ยังไม่แน่ใจว่าความคิดนี้ถูกหรือไม่ จะต้องตรวจดูหลายสิ่งก่อน

ประเทศปากีสถานกับอินเดีย


วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศปากีสถานกับอินเดียนักเขียนบอกว่าตั้งแต่สมัยก่อนถึงตอนนี้การส่งออกกับนำเข้าระหว่าง ๒ ประเทศไม่เพิ่มขึ้นเลย

(ในอีกทางหนึ่งการส่งออกกับนำเข้าระหว่างประเทศอินเดียกับจีนเพิ่มขึ้นมาก)ทุกคนรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ๒ ประเทศไม่ดีเลยเพราะศาสนาไม่เหมือนกันและมีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่แคว้นแค้ซเมียร์ด้วย(ปัญหานี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข) 
แต่ในบทความนี้นักเขียนชี้ให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง ๒ ประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลง และรัฐบาลปากีสถานก็กำลังพยายามให้ทหารเข้าใจความสำคัญของการส่งออกนำเข้าและกำลังเปลี่ยนแปลงระบบทางการส่งออกนำเข้าระหว่าง ๒ ประเทศนักเขียนบอกว่าถ้าความสัมพันธ์ระหว่าง ๒ ประเทศดีขึ้น การส่งออกระหว่างประเทศอินเดียกับยุโรปและ ประเทศอินเดียกับประเทศแถบตะวันออกกลางก็จะเพิ่มขึ้น
โจคิดว่าในระยะยาวความสำคัญของความสัมพันธ์กับประเทศอินเดี่ยจะเพิ่มขึ้น เพราะความสำคัญทางเศรษฐกิจโลกจะย้ายจากประเทศจีนมาที่ประเทศอินเดีย ในตอนนั้นประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศอินเดียเช่นประเทศบังคลาเทศ กับ ศรีลังกาก็จะได้รับผลดีที่มาจากการพัฒนาของประเทศอินเดีย

แต่ดูเหมือนว่าบริษัทญี่ปุ่นยังไม่ค่อยทำธุรกิจในประเทศแถบนี้ นอกจากประเทศพม่าแล้ว โจกำลังหาหัวข้อการวิจัยเกี่ยวกับประเทศกำลังพัฒนา คิดว่าเขียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ก็ดี

อ้างอิง
Clever steps at the border (From The Economist May 12th 2012)

ปูนิ่มผัดผงกะหรี่


วันนี้โจไปทานอาหารไทยที่ร้านอาหารชื่อ ร้านอาหารสรวงสวรรค์ และทานปูนิ่มผัดผงกะหรี่เป็นครั้งแรก (จริงๆแล้วโจเคยทานปูผัดผงกระหรีหลายครั้งแต่ไม่เคยทานปูนิ่มผัดผงกะหรี่)
โจรู้สึกแปลกใจมากที่รู้ว่าปูนิ่มผัดผงกะหรี่นั้นทานง่ายกว่าปูผัดผงกะหรี่และรู้สึกอร่อยกว่าปูผัดผงกะหรี่ด้วย นอกจากอาหารจานนี้แล้วโจรู้สึกว่าส้มตำของร้านนี้ก็ทานง่ายและอร่อยมาก
โจไม่แน่ใจว่าที่โจรู้สึกว่าทานส้มตำของร้านนี้ง่ายนั้นเป็นเพราะเดี๋ยวนี้มีโอกาสไปทานอาหารไทยมากขึ้นหรือโจชินกับอาหารเผ็ดมากกว่าเมื่อก่อน หรือ เป็นเพราะรสชาติอาหารของร้านนี้ถูกปากโจมาก
ยังไงก็ตามอยากไปทานอาหารที่ร้านนี้อีกครั้ง

ไปดูหนัง“สู้ต่อไปลูเซียส


อาทิตย์ที่แล้วโจไปดูหนังเรื่อง สู้ต่อไปลูเซียส(หนังเรื่องนี้ทำมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น)
หนังเรื่องนี้เป็นหนังตลก   ลูเซียสเป็นคนที่สร้างอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ในสมัยโบราณ  ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาข้ามเวลามาที่ประเทศญี่ปุ่นในสมัยนี้ เขารู้สึกตกใจที่รู้จักเทคโนโลยีทางด้านอ่างอาบน้ำของญี่ปุ่น 
(เขารู้สึกเสียใจมากที่รู้ว่าประเทศอื่นมีเทคโนโลยีที่ดีกว่าโรม)  เขาเรียนรู้หลายสิ่งแล้วกลับมาสร้างอ่างอาบน้ำใหม่ เรื่องนี้สนุกมากเพราะสำหรับคนญี่ปุ่นอะไรๆก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเขาอะไรๆก็เป็นสิ่งแปลกใหม่ เดี๋ยวนี้โจยุ่งมากและไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน โจก็เลยดีใจมากที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ไม่แน่ใจว่าคนต่างชาติก็เข้าใจความสนุกของหนังเรื่องนี้เหมื่อนกับคนญี่ปุ่นหรือไม่
 (สำหรับคนญี่ปุ่น การไปเข้าบ่อน้ำร้อนกับคนอื่นหลายคนโดยไม่ใส่เสื้อผ้าก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ดูเหมือนว่าที่ประเทศอื่นไม่ค่อยมีวัฒนธรรมแบบนี้  นอกจากลูเซียสแล้ว คนต่างชาติสมัยนี้ก็อาจจะรู้สึกตกใจกับวัฒนธรรมทางการอำบน้ำของญี่ปุ่น)

Sunday, 13 May 2012

อุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต

วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่อาจจะทำให้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตในอนาคต (นักเขียนบอกว่า “การปฏิวัติที่ 3 กำลังเกิดขึ้นอยู่” )
เขาบอกว่าในอนาคตหลายโรงงานอาจะใช้ “เครื่องพิมพ์สามมิติ” และการทำงานของพนักงานที่ประกอบชิ้นส่วนเล็กๆจะลดลง (โจไม่รู้ความแตกต่างระหว่างเครื่องพิมพ์สามมิติกับเครื่องพิมพ์ตอนนี้ที่โรงงานส่วนใหญ่ใช้อยู่ แต่นักเขียนบอกว่าเครื่องพิมพ์สามมิติสามารถทำของที่ซับซ้อนที่เครื่องพิมพ์ตอนนี้ทำไม่ได้ได้)
เขาบอกว่าถ้าความสำคัญของแรงงานที่ไม่มีความสามารถลดลง ความจำเป็นในการทำการผลิตที่ประเทศกำลังพัฒนาที่มีแรงงานราคาถูกก็จะลดลงด้วย โรงงานที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาอาจจะกลับมาประเทศพัฒนาแล้วอีกครั้ง
นักเขียนบอกว่าในอนาคตความสำคัญของการศึกษาทางการผลิตจะเพิ่มขึ้นมาก รัฐบาลก็เลยจะต้องพยายามเพิ่มจำนวนแรงงานที่มีการศึกษามาก นอกจากนี้แล้วรัฐบาลไม่ควรจะป้องกันอุตสาหกรรมแบบเก่าโดยใช้ภาษี รัฐบาลควรจะช่วยในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม
โจคิดว่าความเร็วของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจะขึ้นอยู่กับราคาของเครื่องพิมพ์สามมิติ ถ้าราคาเครื่องนี้แพงมากการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมก็จะเป็นไปอย่างช้าๆ
นอกจากนี้แล้วโจคิดว่าโรงงานที่อยู่ที่ประเทศกำลังพัฒนาและผลิตของสำหรับผู้บริโภคของประเทศพัฒนาแล้วอาจจะย้ายกลับประเทศของเขา แต่เดี๋ยวนี้บริษัทของประเทศพัฒนาแล้วย้ายโรงงานไม่ใช่เพราะราคาแรงงานถูก แต่เป็นเพราะอุปสงค์การบริโภคของประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นมาก
ไม่แน่ใจว่าโรงงานจะกลับมาประเทศพัฒนาแล้วจริงหรือไม่

<อ้างอิง>
The third industrial revolution (From The Economist April 21st 2012)