Sunday 30 June 2013

ไฟป่าเกาะสุมาตรา



อาทิตย์นี้ โจอ่าน บทความเกี่ยวกับไฟป่าในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่เกาะสุมาตรา ทุกปีหลายบริษัทจะเผาป่าเพื่อถางที่สำหรับการผลิต(วิธีนี้เป็นวิธีที่ราคาถูกที่สุด)  แต่ปีนี้ หมอกควันที่มาจากการเผาป่าลอยไปถึงประเทศอื่นและทำให้เกิดปัญหาทางมลพิษ 
ประเทศมาเลเซียกับสิงคโปร์มีหมอกมาก และ มลพิษในอากาศแย่มากเลย หลายคนเริ่มใช้หน้ากาก ทั้ง ๒ รัฐบาลโทษ รัฐบาลอินโดนีเซีย (ตอนแรก นักการเมืองของรัฐบาลอินโดนีเซีย คนหนึงบอกว่า การโต้ตอบของประเทศมาเลเซียกับสิงคโปร์เหมือนกับเด็กเลย  แต่ในที่สุด ประธานาธิบดีของอินโดนีเซียก็ออกมาขอโทษกับทั้ง ๒ ประเทศ) 
มี ๒ เรื่องที่น่าสนใจกับเรื่องนี้   เรื่องที่ ๑ คือ มีคนที่คิดว่าบริษัทของมาเลเซียกับสิงคโปร์ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะ หลายบริษัทลงทุนที่อยู่ที่เกาะสุมาตรา เรื่องที่ ๒ คือ มีคนชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกลางของอินโดนีเซียไม่ค่อยมีอำนาจ  ที่อินโดนีเซีย รัฐบาลต่างจังหวัดมีอำนาจในการใช้ที่ดิน แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลต่างจังหวัดไม่ค่อยสนใจ กับสถานการณ์ของต่างประเทศ มีคนบอกว่ารัฐบาลต่างจังหวัดไม่ค่อยสนใจ เพราะ ภาษีกับคะแนนของการเลือกตั้งมาจากบริษัทที่เผาป่าหลัก ดูเหมือนว่าประเทศใน อาเซียนจะมีการประชุมสำหรับเรื่องนี้ในเดือนหน้า แต่ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง โจคิดว่าถ้าเราอยากให้บริษัทที่อยู่ที่สุมาตราหยุดเผาป่า เราจะต้องสร้างแรงจูงใจ เช่น ไม่ซื้อของที่มาจากบริษัทที่เผาป่าเป็นต้น  

<อ้างอิง>
South East Asia’s smog / Unspontaneous combustion

Saturday 29 June 2013

๓๐ ปี



อาทิตย์ที่แล้ว โจอายุ ๓๐ ปีขแล้ว วันเกิดก็เป็นเหมือนเดิม แต่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย (อธิบายความรู้สึกนี้ยาก)
นอกจากนี้แล้ว ๕๐ เปอร์เช็นต์ ของปีนี้ก็ผ่านไปแล้วด้วย จริงๆรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก และสุภาษิตของ จูซี  สมัยเด็กๆ ท่านเรียนไม่เท่าไรก็ลุหนังสือแล้ว (Youthful years pass quickly before one accomplishes much learning )” นั้นเป็นจริง  รู้สึกว่ายิ่งเรียน ยิ่งไม่เข้าใจ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเอง(รวมทึง ความสามารถภาษาไทยกับอังกฤษ) จะเป็นอย่างไรบ้างในอีก ๑๐ ปี  แต่จะต้องพยายามมากกว่าตอนนี้ หวังว่า เมื่ออายุ ๔๐ ปี ตัวเองจะสามารถ หมดสิ้นข้อกังวลสงสัย ได้แล้ว เหมือน ที่ขงจือ บอก (เขาบอกว่า เมื่ออายุ ๑๕ เราตั้งใจมั่นในการเรียนรู้  เมื่ออายุ ๓๐ เราตั้งหลักได้มั่นคง เมื่ออายุ ๔๐ เราหมดสิ้นข้อกังวลสงสัย เมื่ออายุ ๕๐ เรารู้บัญชาแห่งสวรรค์  At 15, I set my heart on learning; At 30, I took my stand; At 40, I no longer had doubts; At 50, I knew the will of the heavens)
เสียงกับตัวสะกด ของ ๓๐ ปี ดูผู้ใหญ่มากแล้ว แต่คิดว่า ความหนุ่มสาวที่แท้นั้น มิใช่ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต หากแต่เป็นสภาวะของจิตใจ (Youth is not a time of life; it is a state of mind คำพูดของ นักเขียน Samuel Ullman )  
 อืม.....มีหลายคำพูดเกี่ยวกับอายุและเวลา ดูเหมือนว่าตั้งแต่สมัยโบราณ ทุกคนคิดหลายสิ่งเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

Sunday 23 June 2013

การไปทำงานที่กรุงเทพฯ



อาทิตย์ที่แล้ว โจไปทำงานที่กรุงเทพฯมา โจไปเจอนักเศรษฐศาสตร์ กับ พนักงานของสำนักงานทางรัฐบาลหลายคน และ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อการวิจัยของโจ(การลงทุนโดยตรงจากประเทศไทย กับ ผลกระทบของการพัฒนาประเทศพม่า) ความคิดเห็นของพวกเขาน่าสนใจมาก และ การอธิบายของพวกเขาทำให้โจเข้าใจสถานการณ์มากกว่าเมื่อก่อน (โจเข้าใจว่า โจจะต้องตรวจสอบข้อมูลอื่นด้วย) รู้สึกขอบคุณมาก

ครั้งนี้โจสามารถทำหลายสิ่งในเวลาว่างได้ เช่น โจไปดูวิวของครีราชามา(เดี๋ยวนี้จำนวนคนญี่ปุ่นที่มาทำงานที่นี่มากขึ้นอยู่ รู้สึกว่าที่นี่ก็น่าอยู่) 
หลังจากทำงานเสร็จ ไปทานอาหารกับเพื่อนที่ตอนนี้ทำงานที่กรุงเทพฯด้วย ดีใจที่ได้รู้ว่าทุกคนสบายดี นอกจากนี้แล้ว โจไป Yunomori (ยูโนะโมริ บ่อน้ำร้อนสาธารณะกับปาแบบญี่ปุ่นที่เปิดเมื่อเร็วๆนี้ ตอนนี้ ยังไม่มีสปาหินร้อน แต่สบายดีมาก) ด้วย รู้สึกว่าสำหรับคนญี่ปุ่น ที่นี่น่าอยู่ขึ้นมากๆ
ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยดี แต่วันที่สุดท้ายโจทำผิด เมื่อจะกลับญี่ปุ่น โจเข้าใจเวลาผิดและนอนมากไป จึง ตกเครื่องบิน แล้ว โจต้องเสียเวลา ๘ ชั่วโมง และ เสียเงิน ๑ หมื่นเ ๗ พัน บาทด้วย  แย่มากๆ






Sunday 9 June 2013

มูลค่าการส่งออกกับการนำเข้าที่เหมาะสมกับประเทศ


อาทิตย์ที่แล้ว โจอ่านหนังสือเรียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนและเจอบทความที่น่าสนใจ ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาของบทความนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่เคยเรียนทฤษฎีการพัฒนาเศรษฐกิจหรือไม่ แต่ระหว่างโจเรียนที่มหาวิทยาลัยไม่มีโอกาสเจอทฤษฎีนี้ (ตัวเองเรียนอะไรมา....) 
บทความนี้พูดเกี่ยวกับมูลค่าการส่งออกกับการนำเข้าที่เหมาะสมกับประเทศ นักวิจัย ไซมอน คุซเนท (Simon Kuznets  ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์) บอกว่าอัตราส่วน มูลค่าการส่งออก+การนำเข้า ต่อ GDP ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรกับระดับรายได้ของประเทศ เขาบอกว่าถ้าไม่ค่อยมีจำนวนประชากร หรือ เศรษฐกิจยังไม่ค่อยพัฒนาแล้ว ประเทศนี้ไม่สามารถผลิตสินค้าที่จำเป็นในประเทศได้ และจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ถ้ารายได้เพิ่มขึ้นมาก อุปสงค์ของเราจะมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงเร็วมากขึ้น เรื่องนี้ทำให้เพิ่มการนำเข้า โจคิดว่าความคิดนี้ง่าย แต่มีความสำคัญมากและใช้ได้ง่ายด้วยอาทิตย์ที่แล้ว โจรู้สึกสนใจเรื่องนี้มาก เพราะโจคิดเกี่ยวกับมูลค่าการส่งออกกับการนำเข้าของประเทศพม่า หลายคนบอกว่า เมื่อก่อนการส่งออกกับนำเข้าของพม่าน้อยมากไป และ จะเพิ่มขึ้นมากในอนาคต แต่โจไม่แน่ใจ(และอยากจะรู้ว่า) การส่งออกกับการนำเข้าน้อยมากไปแค่ไหน และจะเพิ่มขึ้นถึงแค่ไหน   โจกำลังคาดว่ามูลค่าของการส่งออกกับนำเข้าของพม่าจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน โดยใช้ความคิดนี้กับข้อมูลอื่นด้วย(ในเศรษฐกิจจริง นอกจากจำนวนประชากรกับระดับรายได้แล้ว มีหลายปัจัยที่ทำให้เพิ่ม/ลดอัตรานี้)


ตอนนี้คุณภาพการค้าดการณ์ยังไม่ดี แต่รู้สึกดีใจที่เข้าใจได้มากขึ้นนิดหน่อย