Friday 21 March 2014

การไปทำงานที่สิงคโปร์ (๑?)



อาทิตย์ที่แล้วโจไปทำงานที่สิงคโปร์มา
เคยแวะที่สนามบินสิงคโปร์เพื่อเปลี่ยนเครื่องบิน  แต่ไม่เคยไปเที่ยว/ทำงานในเมือง รู้สึกว่าการไปทำงานที่สิงคโปร์ไม่ค่อยยาก เพราะระบบรถไฟฟ้าใช้ได้ง่ายและ ไปหาตึกของบริษัทที่จะสัมภาษณ์ก็ไม่ยากเลย ( แม้ว่ามีปัญหาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลเลยเพราะทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งมาก) ถนนกับวิวในเมืองก็สะอาดและรู้สึกเหมือนว่าตัวเองทำงานที่โตเกียว
แต่เข้าใจว่านอกจากความคล้ายคลึงกันแล้วมีความแตกต่างด้วยเช่น จริงๆมีคนต่างชาติมากและมีหลายชาติพันธุ์ด้วย นอกจากคนสิงคโปร์กับคนจีนแล้ว มี คนอินเดีย คนพม่า คนมาเลเซีย คนฟิลิปปินส์ คนบังคลาเทศ คนญี่ปุ่น คนเกาหลี และ ฝรั่งมากด้วย (อยากจะรู้ว่าคนอินเดียที่อยู่ที่ อินเดียเล็กเป็นคนสิงคโปร์ที่บรรพบุรุษมาจากอินเดียหรือเป็นผู้อพยพ )


สำหรับราคาของ โจรู้สึกว่าราคาอาหารแพงกว่าญี่ปุ่น แต่คุณภาพของบริการในร้านอาหารไม่ค่อยดี มีพนักงานที่ยิ้มน้อยมาก แต่รู้สึกว่าราคารถไฟถูกกว่าญี่ปุ่นมาก นอกจากนี้แล้ว โจรู้สึกแปลกใจที่รู้ว่ารัฐบาลห้ามกินหมากฝรั่ง แต่อนุญาตในสูบบุหรี่ระหว่างเดินไปได้ (ไม่มีขยะของหมากฝรั่งบนถนน แต่มีก้นบุหรี่)

ครั้งนี้นอกจากสิงคโปร์แล้ว โจไปยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซียด้วย ตอนนี้รัฐบาลมาเลเซียมีแผนที่จะพัฒนาที่นี่ (โปรเจ็คท์ชื่อ Iskandar )ไม่แน่ใจว่าที่นี่จะพัฒนาแค่ไหนในอีก ๑๐-๒๐ ปีหน้า 
แต่ดีใจที่ได้ไปดูสถารการณ์ทางการพัฒนาของตอนนี้

Sunday 2 March 2014

การไปทำงานที่พม่า



อาทิตย์ที่แล้วโจไปทำงานที่พม่ามา ตั้งแต่โจไปพม่าครั้งที่แล้ว ผ่านไปมากกว่า ปี ๒ แล้ว รู้สึกว่าหลายสิ่งเปลี่ยนแปลง เช่นระหว่างญี่ปุ่นกับพม่ามีเที่ยวบินตรง (เมื่อก่อนต้องเปลี่ยนเที่ยวบนที่ไทยหรือเวียดนาม) จำนวนโรงแรมที่สามารถใช้บัตรเครดิตได้เพิ่มขึ้น (จำนวนตู้ ATM ก็เพิ่มขึ้นด้วย) 
 ปกติโจไปสัมภาษณ์คนเดียว แต่ครั้งนี้ไปสัมภาษณ์กับหลายคน (เพื่อนร่วมงานจากแผนกอื่น พนักงานของธนาคาร และที่ปรึกษาของบริษัทอื่น) และรู้สึกว่าไปทำงานกับหลายคนก็ดี เพราะว่าหลังจากการสัมภาษณ์เสร็จแล้ว สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้(ให้เพื่อนร่วมงานช่วยสอนสิ่งที่ฟังไม่ทันก็ได้ด้วย) การสนทนากับเพื่อนร่วมงานก็ช่วยการเข้าใจของแต่ละคน เพราะว่าความสามารถเฉพาะทางของเราก็ไม่เหมือนกันและความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เราฟังก็ไม่เหมือนกัน
หลังจากทำงานเสร็จแล้ว โจไปพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ที่นี่เหมือนเดิม แต่รู้สึกตกใจที่รู้ว่ามีWi-Fiฟรี  แล้ว (ไม่รู้ว่าเพื่อให้เราบริจาคเยอะๆหรือเปลา แต่มีตู้ ATM แล้วด้วย ) นอกจากไปเที่ยวแล้ว ในวันอื่นหลังจากทำงานเสร็จ โจไปซื้อข้อมูลที่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจเอกชนด้วย รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่หลังจากรับข้อมูลแล้วมีโอกาสไปทานอาหารกับพนักงานของสำนักงานด้วย ดีใจที่ได้มีโอกาสรู้จักหลายสิ่ง

ครั้งนี้นอกจากย่างกุ้งแล้ว ไปเนปยีดอด้วย รู้สึกตกใจกับหลายสิ่งเช่นสนามบิน ถนน โรงแรม อะไรๆก็ใหญ่มาก แต่มีคนน้อยมาก ไม่แน่ใจว่าจำนวนประชากรจะเพิ่มแค่ไนในอนาคต เมื่อไปสัมภาษณ์กับหลายที่ โจรู้สึกตกใจที่รู้ว่ามีหลายคนที่ไม่ค่อยรู้สึกสนใจกับการพัฒนาทวาย ตอนแรกเราคิดว่ารัฐบาลพม่าไม่ค่อยสนใจเพราะไม่อยากเพิ่มหนี้ต่างประเทศ แต่ดูเหมือนหนี้ต่างประเทศไม่ใช่ปัญหาสำคัญอย่างที่คิดเอาไว้  รัฐบาลพม่าอาจจะคิดว่าการพัฒนาทวายเกิดผลดีต่อแค่ประเทศไทยเท่านั้น และ การพัฒนาย่างกุ้ง-เนปยีดอ-มัญฑะเลย์มีประสิทธิภาพมากกว่า (หลายคนบอกว่าถ้าอยากจะพัฒนาถนนระหว่างพม่ากับไทย พัฒนาด่านเจดีย์สามองค์ดีกว่า)
 
 นอกจากเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพแล้ว คนที่ไม่ค่อยอยากจะยืมเงินจากต่างประเทศ บางคนคิดเรื่องเกี่ยวกับปัญหาทางความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาคในอนาคตด้วย ตอนนี้หลายคนคิดว่า รัฐบาลพม่าควรจะมุ่งเน้นการพัฒนา ๒-๓ ภูมิภาคโดยการยืมเงิน และหลังจากพัฒนาแล้ว คื่นเงินและพัฒนาที่อื่นโดยใช้ภาษีที่มาจากภูมิภาคที่พัฒนาแล้ว เพราะว่าการพัฒนาหลายภูมิภาคพร้อมกันไม่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่แน่ใจว่านโยบายนี้จะเป็นไปด้วยดีหรือไม่ เพราะมีความเป็นไปได้ที่ประชาชนรุ่นถัดไปที่ย่างกุ้งไม่พอใจกับนโยบายนี้ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ว่าทำไมพวกเขารวยกว่าภูมิภาคอื่น (เพราะรัฐบาลเลือก) และอาจจะรู้สึกว่าเงินของตัวเองถูกต่างจังหวัดขโมยจากการเก็บภาษีในอนาคต  ปัญหาระหว่างคนที่มีกับคนไม่มี /เมืองกับต่างจังหวัดจะเกิดขึ้นได้เหมือนประเทศไทย คิดว่าจะตรวจสอบประวัติศาสตร์ของการพัฒนาประเทศอื่นในเอเซียเพื่อช่วยในการเข้าใจพม่า
หลังจากกลับมาญี่ปุ่น โจยุ่งมากขึ้นแล้ว เดือนนี้จะต้องทำงานประจำก่อน แต่หลังจากนั้น อยากจะเขียนรายงานใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาพม่า