อาทิตย์นี้โจได้เถียงกันกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์กับบริษัทญี่ปุ่นและรู้สึกว่าการจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันยากมาก
แต่ยังดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสมัยก่อน ช่วงหลังนี้บริษัทญี่ปุ่นรู้สึกสนใจกับการจ้างแรงงานต่างชาติฝีมือดี แต่ข้แม้ว่าไม่ว่าจะมีความสามารถที่ดีแค่ไหนก็จะต้องมีความสามารถภาษาญี่ปุ่นที่ดีด้วยเพราะถ้าไม่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นที่ดีเท่าควรจะหางานที่ญี่ปุ่นยากมาก โจรู้สึกว่าสถานการณ์นี้น่าเสียดายมากเพราะว่าจำนวนคนที่มีทั้งฝีมือดีสูงกับมีความสามารถภาษาญี่ปุ่นนั้นมีน้อยมาก
โจคิดว่าถ้าบริษัทอยากจะจ้างแรงงานฝีมือดีจริงๆ ตอนที่บริษัทหาพนักงาน บริษัทควรจะพิจารณาแรงงานที่ไม่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นด้วย
โจรู้ว่าหลายบริษัทรู้สึกกลัวที่จะจ้างแรงงานที่ไม่มีความสามารถญี่ปุ่นเพราะว่าการทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษจะเป็นอุปสรรคก็ยากมากและจะต้องมีการปรับตัวในการทำงารที่ยุ่งยาก แต่โจคิดว่าคนที่คิดแบบนี้อาจจะไม่เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษก่อนที่คนต่างชาติที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้จะเข้ามาทำงานที่บริษัท(เพราะว่าถ้าทุกคนพูดภาษาญี่ปุ่นได้
จะได้ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษ)
โจจึงคิดว่าการจ้างแรงงานต่างชาติฝีมือดีที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ควรจะเข้ามาก่อนเพราะโจคิดว่าคนที่ไม่ค่อยมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษ
หลายๆคนมีความสามารถอ่านเขียนภาษาอังกฤษที่ดีและแม้ว่าภาษาอังกฤษก็ยังไม่ค่อยคล่อง
แต่พวกเขาก็สามารถสื่อสารกับคนต่างชาติได้
ถ้าพวกเขามีโอกาสพูดฟังภาษาอังกฤษที่ทำงานทุกวัน พวกเขาอาจจะเคยชินกับการทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว
โจคิดว่าความเขินอายในการพูดภาษาอังกฤษอาจจะเป็นอุปสรรคหลักมากกว่าความสามารถภาษาอังกฤษ แต่เพื่อนร่วมงานของโจไม่ยอมรับความคิดเห็นของโจเลยและบอกว่าจะสอนภาษาญี่ปุ่นให้คนต่างชาติและให้พวกเขาทำงานโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นดีกว่าที่จะให้คนญี่ปุ่นทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษ
(โจเคยแนะนำให้เขาเรียนภาษาอังกฤษหลายครั้งตั้งแต่ราวๆ ๑๐ ปีก่อน แต่เขาปฏิเสธทุกครั้งโดยบอกว่าไม่ค่อยจำเป็นที่จะเรียนภาษาอังกฤษและมีแต่เสียเวลาเปล่า)
ถ้าหลายๆคนยังมีทัศนคติอย่างนี้ต่อไป แรงงานต่างชาติฝีมือดีอาจจะเลือกไปทำงานที่ประเทศอื่นและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทญี่ปุ่นในระดับโลกก็จะลดลง