ตั้งแต่ ๓ อาทิตย์ที่แล้วโจไปทำงานที่ประเทศพม่ากับประเทศไทย
(อยู่ที่ย่างกุ้ง ๕ วันและอยู่ที่กรุงเทพฯ ๘ วัน) เคยไปเที่ยวประเทศพม่าเมื่อ ๒
ปีที่แล้ว แต่ไปทำงานที่นั่นเป็นครั้งแรก ครั้งนี้ไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วไปกับคนหลายคน
ก่อนไปที่นั่นก็มีความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในประเทศพม่าอยู่แล้วแต่ไปเห็นจริงๆรู้สึกว่าหลายสิงเปลี่ยนแปลงไปจากที่คิดมาก
เช่นก่อนไปทำงานประเทศพม่าโจเคยอ่านบทความเกี่ยวกับรถยนต์
บทความนั้นบอกว่าเดี๋ยวนี้รัฐบาลเปลี่ยนข้อจำกัดเกี่ยวกับการนำเข้าและการนำเข้ารถยนต์เพิ่มมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่แล้วที่โจไปประเทศพม่ารู้สึกว่าจำนวนรถยนต์แบบใหม่เพิ่มขึ้นจริงๆ
(ครั้งที่แล้วรถยนต์ที่โจเห็นส่วนใหญ่เป็นรถยนต์เก่ามากๆ แต่ครั้งนี้เห็นรถยนต์แบบใหม่เยอะ
)
นอกจากนี้แล้วเมื่อเดิ่นในเล่นในย่างกุ้ง
โจรู้สึกว่าจำนวนคนต่างรชาติที่มาทำงานหรือมาเที่ยวก็เพิ่มขึ้น มาก
(หาโรงแรมที่ดีและมีห้องว่างก็ยากขึ้น ราคาก็แพงมากขึ้น ดูเหมือนวทุกคนสนใจว่าในอนาคตราคาที่ดิน
ค่าเช่าออฟฟิศและค่าเช่าบ้านสำหรับคนต่างชาติจะเป็นอย่างไรบ้าง
บางคนคิดว่าราคาจะเพิ่มต่อไปเพราะจำนวนบริษัท
คน ที่มาทำงานที่พม่าจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อไป ทุกคนบอกว่าประเทศพม่ามีข้อจำกัดเกี่ยวกับการขอกู้เงินจากธนาคารมากๆและพวกเขาชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์นี้ไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ แต่บางคนคิดว่าราคาตอนนี้แพ่งมากไปและสถานการณ์นี้มาจากการขาดอุปทานตึก
พวกเขาคิดว่าถ้าการสร้างตึกมากขึ้นราคาจะลดลงมาก คิดว่าจะวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็น่าสนใจมาก
เมื่อคนที่โจสัมภาษณ์พูดเกี่ยวกับลักษณะนิสัยคนพม่าโจรู้สึกแปลกใจมากเพราะประเทศไทยติดกับประเทศพม่าแต่ดูเหมือนว่าลักษณะนิสัยคนไทยกับคนพม่าแตกต่างกันมากๆ เช่นคนไทยมักจะทานอาหารนอกบ้านแต่คนพม่ามักจะทานที่บ้าน
(ส่วนใหญ่ทำปิ่นโตเอามาทานที่ออฟฟิศ)
คนไทยหลายคนเปลี่ยนบริษัทบ่อยๆแต่คนพม่าไม่ค่อยเปลี่ยน และคนไทยชอบซื้อของมากกว่าคนพม่า(โจคิดว่าความแตกต่างนี้มาจากความแตกต่างในข้อจำกัดเกี่ยวกับการยืมเงินจากธนาคารมาก)
เป็นต้น
การไปทำงานที่ประเทศพม่าทำให้โจส่นใจหลายสิ่ง
นอกจากเศรษฐกิจพม่าแล้วอยากจะวิจัยความแตกต่างระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่าด้วย
No comments:
Post a Comment