Saturday, 8 November 2014

เข้าร่วมการอบรมออนไลน์ของ IMF



ตั้งแต่ ๓ อาทิตย์ที่แล้ว โจเข้าร่วมโปรแกรมการอบรมออนไลน์ของ IMF ผู้เข้าร่วมจะเรียน Debt Sustainability Analysis (การวิเคราะห์ความยั่งยืนของหนี้ของประเทศ) โดยใช้อินเทอร์เน็ต
 โจรู้สึกตกใจที่รู้ว่าคุณภาพของการศึกษาออนไลน์พัฒนาไปมาก ก่อนโจเข้าร่วมโจกลัวว่าจะเรียนคนเดียวโดยใช้อินเทอร์เน็ตยาก เพราะว่าจะรู้สึกเบื่อได้ง่ายและจะมีสมาธิยาก แต่โครงสร้างของการอบรมทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสนใจมาก วิดีโอกับคำถามก็น่าสนใจและเราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคำถามในเว็บบอร์ดได้ด้วย (การรู้ความคิดเห็นของหลายคนจากหลายประเทศก็สนุกดี) ระบบการศึกษาแบบนี้ยังไม่สมบูรณ์ แต่คิดว่าการเรียนแบบนี้จะขยายตัวมากกว่านี้ สำหรับคนที่อยากจะเรียนสถานการณ์นี้ดีมาก (สามารถเรียนกับอาจารย์ที่สอนเก่งมากได้ ไม่เกี่ยวว่าจะอยู่ที่ไหน จะเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ค่าเรียนก็ถูกหรือฟรี ) สำหรับอาจารย์ก็ดีเพราะว่าอาจารย์ไม่ต้องสอนหลายครั้งและสามารถใช้เวลานานๆกับการวิจัยก็ได้ 
แต่มีความเป็นไปได้ที่การศึกษาออนไลน์ทางวีดีโอจะมาแทนที่การศึกษาออฟไลน์ และจะเกิดผลเสียต่อตลาดแรงงานของการศึกษา โจก็เลยคิดว่าความสำคัญของการศึกษาออฟไลน์จะต้องเปลี่ยนจากการสอนเหมือนวีดีโอไปสู้การสนทนา หรือ การติดต่อกับนักเรียนแทน ถ้าวิธีสอนออฟไลน์ไม่เปลี่ยน ครูกับอาจารย์หลายคนอาจจะตกงาน

การไปทำงานที่อินเดีย



อาทิตย์ที่แล้วกับอาทิตย์นี้โจไปทำงานที่อินเดียมา ครั้งนี้ก็ไปนิวเดลีกับมุมไบและสัมภาษณ์กับหลายคน หลังจากรัฐบาลเปลี่ยนในพฤษภาคมที่ผ่านมา หลายคนหวังว่าสิ่งแวดล้อมทางธุรกิจกับเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่คนที่โจไปสัมภาษณ์หลายคนบอกว่าสถานการณ์ยังไม่ค่อยเปลี่ยนยกเว้นความเชื่อมั่นนักลงทุนกับผู้บริโภค
 ดูเหมือนว่าคนอินเดียหลายคนคิดว่าของการปฏิรูปจะเร็วขึ้นในปีหน้า และเศรษฐกิจก็จะค่อยๆดีขึ้น แต่คนญี่ปุ่นที่ทำงานที่อินเดียหลายคนยังรู้สึกสงสัยว่ารัฐบาลจะสามารถเปลี่ยนหลายสิ่งได้หรือไม่ เพราะว่าการตัดสินใจของรัฐบาลอินเดียจะใช้เวลานาน (รัฐบาลกลางจะต้องเจรจากับรัฐบาลท้องถิ่นด้วย)  แต่ไม่มีคนที่คิดว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงกว่าตอนนี้ โจยังไม่เข้าใจว่าความแตกต่างระหว่างความคิดของคนอินเดียกับญี่ปุ่นมาจากที่ไหน แต่การสนทนากับพวกเขาช่วยการเข้าใจของโจมาก
ครั้งนี้โจรู้สึกว่ามลพิษทางอากาศ(กับเสียง)แย่ลงกว่าปีที่แล้วและรู้สึกว่าจะต้องเริ่มกำหนดนโยบายเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมในอนาคตอันใกล้ แต่ดูเหมือนว่ามีคนที่คิดแบบโจน้อย เพราะว่าพวกเขาคิดว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาความยากจนสำคัญมากกว่าการช่วยสิ่งแวดล้อม รัฐบาลอินเดียอยากจะเพิ่มอัตราส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตจาก ๑๕ เปอร์เซ็นต์เป็น ๒๕ เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าข้อบังคับไม่เข้มงวดแรงขึ้นเลย โจกลัวว่ามลพิษจะแย่ลงมากไปกว่านี้