Sunday, 25 January 2015

เศรษฐกิจไทยถึง ปี ๒๕๖๓

เมื่อวานนี้โจได้รับรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยจากคนที่รู้จักของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจอื่นเขียนพวกเขาเขียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ปีนี้ถึง ปี ๒๕๖๓ และสรุปว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดีขึ้นในอีก ๖ ปี ข้างหน้านและอัตราการขยายตัวตามศักยภาพก็จะค่อยๆลดลง พวกเขาคิดอย่างนี้เพราะว่าการปฏิรูปของเศรษฐกิจกับการเมืองอาจจะใช้เวลาอีกนานและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ปรากฏในระยะสั้น นอกจากนี้แล้วสังคมไทยจะเข้าสูสังคมผู้สูงอายุและจำนวนแรงงาน (อายุระหว่าง ๑๕ ปีถึง ๖๔ ปี) จะเริ่มลดลงอีกใน ๓-๔ ปี และเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจด้วย โจก็เข้าใจและเห็นด้วยกับความคิดเห็นของพวกเขาบางที่ แต่โจรู้สึกสงสัยว่าพวกเขามองในแง่ร้ายโดยตรวจสอบไม่ค่อยละเอียด (การวิเคราะห์ไม่พอ)
เช่นถ้าพวกเขาอยากจะบอกว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดีขึ้น พวกเขาจะต้องอธิบายว่าการส่งออก (โดยเฉพาะการส่งออกที่ไปประเทศจีน) ก็ไม่เพิ่มขึ้นต่อไปหรือไม่ และอุปสงค์ HDD ของโลกก็ไม่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ด้วย (โจคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่การส่งออกของไทยจะเพิ่มอีก เพราะว่าถ้าเปรียบเทียบอัตราขยายตัวเศรษฐกิจต่างประเทศ อัตราขยายตัวของการส่งออกตอนนี้ต่ำไป จริงๆแล้วอัตราขยายตัวของประเทศจีนค่อยๆลดลง แต่ยังมากกว่า ๗ เปอร์เซ็นต์ แต่การส่งออกของประเทศไทยที่ไปจีนไม่เพิ่มเลย  ตอนนี้อุปสงค์ HDD โลกไม่เพิ่มเพราะว่าหลายคนใช้ SSD แทน HDD แต่มีคนคิดว่าตอนนี้การย้ายจากคอมพิวเตอร์ เป็น แท็บเล็ตทำให้ยอดขาย HDD ลดลงแต่ อุปสงค์ ของ HDD สำหรับศูนย์ข้อมูลยังค่อยๆเพิ่มขึ้น และในระยะยาวการลดลงที่มาจากการย้ายจาก HDD ถึง SSD จะหยุด และการเพิ่มอุปสงค์ของศูนย์ข้อมูลทำให้เพิ่มยอดขายอีกครั้ง นอกจากนี้โจรู้สึกแปลกใจว่าทำไมพวกเขาไม่บอกอะไรเกี่ยวกับยอดขายของรถยต์เลย เพระว่าการลดลงของยอดขายรถยนต์หลังจากนโยบายคืนภาษีเสร็จ คือ เหตุผลหลักต่อเศรษฐกิจไม่ดีเดี๋ยวนี้  ถ้าพิจารณาการพัฒนาเศรษฐกิจหรือการเพิ่มรายได้กับอัตราที่มีรถยนต์ โจคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง อยากจะรู้ว่าพวกเขาคิดว่ายอดขายของรถจะเป็นอย่างไรนอกเหนือไปจากนี้ โจอยากจะรู้ว่าถ้าความคิดเห็นของพวกเขาถูก(มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยจะไม่ค่อยดีขึ้น) ทำไมบริษัทญี่ปุ่นรู้สึกสนใจกับการลงทุนที่ไทยในอีก ๒-๓ ปี ข้างหน้ามากกว่าประเทศอื่น (โจคิดว่าหลายบริษัทลงทุนในไทยเพราะว่า พวกเขาคิดว่ายอดขายในประเทศไทย กับการส่งออกไทยจะเพิ่ม พวกเขาเข้าใจผิดหรือไม่) ไม่แน่ใจว่าโจมองในแง่ดีมากและความคิดเห็นของตัวเองอะไรๆก็ผิดหรือไม่ แต่ยังไม่กล้าเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนที่รู้จักโดยไม่ตรวจสอบให้ละเอียดก่อน



Saturday, 24 January 2015

ไปดูการแสดงของ ทะกะระซึกะ

อาทิตย์ที่แล้วโจไปดูการแสดงของทะกะระซึกะซึงเป็นหนึ่งในสวัสดิการของบริษัท (ทะกะระซึกะ คือ คณะนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่นและมีแต่นักแสดงผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน ปกติผู้ชมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแต่ดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้จำนวนผู้ชมผู้ชายก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นอยู่) 
การแสดงที่โจไปดูมี ๒ ภาค ตอนแรกมีการแสดงเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้ากุสตาฟที่ ๓ ของประเทศสวีเดนโจรู้สึกสนุกมากกว่าที่คิดเอาไว้และรู้สึกตกใจที่ดูการเปลี่ยนของเวที หลังจากเรื่องนี้จบ  มีการแสดงที่ไม่มีเรื่อง(ร้องเพลงและเต้น) รู้สึกว่าหรูหรามากแต่อยากให้มีเนื้อหาด้วยที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับคนที่ไม่มีหัวทางศิลปะ หัวข้อของการแสดงนี้ คือ Phoenix และดูเหมือนว่าทุกฉากก็เกี่ยวกับ Phoenix แต่ไม่เข้าใจข้อความทีต้องการสื่อของการแสดงนี้ (ไม่แน่ใจว่ามีข้อความหรือไม่) ดีใจที่ได้รู้ว่าการแสดงของคณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเป็นอย่างไร แต่รู้สึกว่า ๑ ครั้งก็พอสำหรับโจ (การเข้าใจความน่าดึงดูดของการแสดงก็ยาก)

Monday, 19 January 2015

อัตราแลกเปลี่ยนโดยทฤษฎีความเสมอภาคของอํานาจซื้อ

ตอนนี้โจเขียนรายงานเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาท และ รู้สึกตกใจที่รู้ว่าค่าเงินบาทในตลาตการเงินถูกกว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่มาจากทฤษฏีความเสมอของอำนาจซื้อมากกว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์
สำหรับค่าเงินเยน ความแตกต่างน้อยกว่า ๒๐ เปอร์เช็นต์ และการเปลี่ยนแปลงของอัตราอัตราแลกเปลี่ยนที่มาจากทฤษฎีสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงจริง แต่สำหรับค่าเงินบาท อัตราที่มาจากอัตราทฤษฏีไม่ค่อยเกี่ยวกัน ดูเหมือนว่านอกจากค่าเงินบาทแล้ว ค่าเงินของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียก็ถูกกว่าอัตราที่มาจากทฤษฏี อยากจะรู้ว่าถ้าประเทศเหล่านี้ที่มีการผ่อนปรนกฎข้อบังคับ จำทำให้ ค่าเงินแข็งขึ้นหรือไม่

Sunday, 18 January 2015

วันครบรอบ ๒๐ ปี

http://www.city.kobe.lg.jp/information/project/shinsai20/shinsai20logo.html
(เขียนวันที่ ๑๗) วันนี้โจรู้สึกตกใจที่รู้ว่าวันนี้แป็นวันครบรอบ ๒๐ ปี ของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮังชิง(ญี่ปุ่น) พ.ศ ๒๕๓๘ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวนั้น โจยัง ๑๑ ขวบ และชีวิตประจำวันของเด็กที่อยู่ที่โตเกียวไม่เปลี่ยนอะไรเลย(จึงไม่ค่อยจำรายละเอียด)  แต่จำได้ว่าทางด่วนฮังชิงถล่มลงมา
วันนี้มีโอกาสดูรายการเกี่ยวกับ ๒๐ ปี ตั้งแต่แผ่นดินไหวนั้นเกิด รู้สึกสนใจกับวิธีฟื้นฟูเมืองโดยไม่เกิดผลเสีย ที่ โคเบะ  ตอนแรกมีหลายคนที่ไม่มีบ้านและอยู่ที่บ้านชั่วคราว หลังจากรัฐบาลสร้างคอนโดมิเนียม รัฐบาลจะต้องเลือกคนที่จะเข้าคอนโดนั้นเพราะว่าจำนวนคอนโดมิเนียมไม่พอ ตอนนั้นรัฐบาลให้ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวเข้าก่อนเพื่อช่วยเหลือ แต่คอนโดมิเนียมนั้นมีแต่ผู้สูงอายุไม่มีวัยรุ่นที่ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุบางคนเสียชีวิตโดยไม่มีใครสังเกตเห็น (เมื่อเลือกคนที่เข้าคอนโดมิเนียม มีคนบอกว่าให้ครอบครัวอายุน้อยเข้าคอนโดมิเนียมด้วยดีกว่า แต่ถ้าให้คนอายุน้อยเข้าด่วย ผู้สูงอายุหลายคนจะต้องอยู่บ้านชั่วคราวที่คุณภาพชีวิตไม่ดีนานๆ ) ดูเหมือนว่าตอนนี้เมืองโคเบะบ้านกับตึกสร้างและกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ปัญหาอื่นเช่นสังคมผู้สูงอายุใหญ่ขึ้น

Tuesday, 13 January 2015

ผลกระทบของการลดลงของราคาน้ำมันต่อเศรษฐกิจเอเซีย

ตั้งแต่ ๓-๔ เดือนที่แล้ว ราคาน้ำมันระหว่างประเทศลดลงราว ๕๐ เปอร์เซ็นต์  และโจกำลังตรวจสอบผลกระทบของการลดลงต่อเศรษฐกิจเอเซีย  เขียนรายงานยังไม่เสร็จ แต่เข้าใจว่า 1) โดยสรุปการลดลงของราคาน้ำมันเกิดผลดีมากกว่าผลเสียต่อเศรษฐกิจเอเซีย (สำหรับประเทศมาเลเซีย เกิดผลเสียมากกว่าผลดีในระยะสั้น  แต่ในระยะยาวมีผลดีมากกว่า) 2)ผลกระทบต่อ ไทย สิงคโปร์ อินเดีย และฮ่องกงมากกว่าประเทศอื่น (เพราะว่าพลังงานของ ประเทศอื่นเช่น ประเทศ จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขึ้นอยู่กับถ่านหินด้วยและ ความสำคัญของน้ำมันต่อเศรษฐกิจน้อยกว่าประเทศอื่น) 
From The Economist "Daily chart : Oil at $50"
http://www.economist.com/blogs/graphicdetail/2015/01/daily-chart-1
แต่ยังไม่แน่ใจว่านโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศ(รวมประเทศพัฒนาแล้ว)จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรและจะเกิดผลกระทบอะไรต่อเอเซีย อยากจะรู้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะสามารถแก้ไขปัญหาภาวะเงินฝืดหรือไม่

Monday, 12 January 2015

อ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์

เดือนที่แล้วกับเดือนนี้โจอ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ ๒ เล่ม และรู้สึกหลายสิ่ง ตอนแรก โจอ่านอัตชีวประวัติของ ลี กวนยู ที่เขาเขียนราวๆ ๑๕ ปีที่แล้ว โจรู้สึกตกใจที่รู้รายละเอียดของกรรมวิธีสร้างประเทศ ไม่แน่ใจว่าระบบแบบสิงคโปร์ดีกว่าแบบอื่นหรือไม่ แต่เข้าใจว่าทำไมเขาคิดว่าความสงบสุขกับระเบียบของสังคมสำคัญกว่าเสรีภาพสื่อมวลน  โจรู้สึกประทับใจกับความสามารถของเขา (เขามีความเชื่อที่ชัดเจน ความสามารถทางภาษา และความเป็นผู้นำ)
หลังจากอ่านหนังสือนี้ โจอ่านหนังสืออื่นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สิงคโปร์ที่นักวิจัยคนญี่ปุ่นเขียนหนังสือนี้รอบรวมการเปลี่ยนแปลงของการเมืองกับเศรษฐกิจหลังจากอัตชีวประวัติของ ลี กวนยูตีพิมพ์ และ บอกว่าการเมืองแบบ ลี กวนยู อาจจะเปลี่ยนแปลงในอนาคต แต่ความเป็นไปได้ที่พรรคฝ่ายค้านจะเป็นรัฐบาลก็ยังน้อย โจรู้สึกว่าหนังสือนี้รวมความคิดเห็นที่อัตชีวประวัติของ ลี กวนยูไม่มี และ โจรู้สึกว่ารัฐบาลสิงคโปร์มีอำนาจเผด็จการมากกว่าที่โจรู้สึกเมื่ออ่านอัตชีวประวัติของลี กวนยู

ไม่แน่ใจว่าระบบแบบสิงคโปร์เหมาะสมกับประเทศอื่นหรือไม่ แต่โจรู้สึกว่าแนวทางของประเทศจีนเป็นแบบสิงคโปร์

ดูหนังหลายเรื่อง

ระว่างวันหยุดในปีใหม่ที่ผ่านมา โจดูหนังหลายเรื่องเหมือนปีที่แล้ว
English Vinglish…......เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงชาวอินเดียที่จะพยายามเรียนภาษาอังกฤษ ครอบครัวของเธอทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษกับภาษาฮินดีได้ แต่ภาษาอังกฤษของเธอไม่ค่อยเก่งและเธอรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ระหว่างที่เธอไปช่วยงานแต่งงานของญาติที่นครนิวยอร์ก เธอตัดสินใจว่าจะเรียนภาษาอังกฤษ โจรู้สึกประทับใจกับฉากสุดท้ายที่เขากล่าวสุนทรพจน์ให้คู่แต่งงานโดยใช้ภาษาอังกฤษ
 The Grand Budapest Hotel…......เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพนักงาน ๒ คนของโรงแรมที่ดีชื่อแกรนด์บูดาเปสต์ พวกเขาได้เข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีฆาตกรรมของลูกค้าที่เคยมาพัก จะอธิบายความน่าดึงดูดของเรื่องนี้ยาก แต่โจชอบบรรยากาศของเรื่องนี้
The Tale of the Princess Kaguya…......เรื่องนี้มาจากนิทานโบราณของญี่ปุ่น พ่อเฒ่าเจอเจ้าหญิงในป่าไผ่ และดูแลอย่างดี พ่ออยากให้เจ้าหญิงแต่งงานกับผู้ชายที่มีตำแหน่งในสังคมชั้นสูง แต่เธอปฏิเสธความคิดของพ่อและสุดท้ายเธอจึงกลับไปดวงจันทร์ (เขามาจากดวงจันทร์) เรื่องนี้ไม่เหมือนกันกับเรื่องดั้งเดิม แต่โจรู้สึกสงสารเขามากในฉากสุดท้าย
Doraemon Stand by me…......เรื่องนี้มาจากเรื่องที่มีชื่อเสียงของโดราเอมอน เวอร์ชั่นหนังก็สนุกดี  ไม่แน่ใจว่าโจยังไม่ชินกับวอยซ์แอกเตอร์ (เสียงพากษ์)ใหม่หรือไม่ แต่โจรู้สึกว่าเวอร์ชั่นการ์ตูนยังดีกว่า
Rurouni Kenshin......เรื่องนี้ก็มาจากการ์ตูน โจรู้สึกว่าสำหรับเนื้อหาเวอร์ชั่นการ์ตูนดีกว่า แต่รู้สึกว่าฉากแอคชั่นดีมาก และการแสดงของนักแสดง ฟุจิวะระ ทะสึยะ ดี
Scissor Hands…......เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่มีมือเป็นกรรไกร (คนที่ผลิตเขาเสียชีวิตก่อนเปลี่ยนมือเป็นมือธรรมดา) ตอนแรกเขาใช้ชีวิตคนเดียวที่บ้านที่อยู่ไกลจากเมือง แต่ผู้ญิงที่เข้าบ้านเจอกับเขา และให้เขาอยู่กับครอบครัวของเธอ เขา(หุ่นยนต์) นิสัยดีและอยากจะอยู่กับหลายคนอย่างดี แต่มือของเขาเกิดหลายปัญหา โจอยากจะรู้ว่าทัศนคติของผู้คนมีต่อเธอสะท้อนความรู้สึกของเราต่อชนกลุ่มน้อย หรือไม่

Sunday, 11 January 2015

การไปเที่ยวไทย



สิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาโจไปเที่ยวไทยเหมือนเดิม ครั้งนี้ไม่ค่อยไปหลายที่และพักผ่อนนานๆที่หัวหินกับกรุงเทพฯ เพราะว่าปีที่แล้ว โจไปเชียงใหม่และเป็นหวัด  รู้สึกตกใจที่รู้ว่าหัวหินเย็นมากกว่ากรุงเทพฯ(จึงไม่สามารถว่ายน้ำได้เลย ) ตอนโจพักที่หัวหิน โจไปเที่ยวที่วังบ้านปืน – เพชรบุรีกับ กองบิน ๕ –ประจวบ รู้สึกว่าประจวบก็น่าอยู่(ชายหาดมีคนน้อยและเงียบกว่าหัวหิน)  
 
สำหรับอาหาร โจรู้สึกว่าอาหารของโรงแรมเชราตันอร่อยมากๆ (เมื่อไปทานอาหาร โจไม่ค่อยหิว แต่ยังรู้สึกอร่อยมาก อยากจะรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้สึกหิวมาก )

หลังจากกลับกรุงเทพฯ โจไปทานอาหารหรือกาแฟกับเพื่อนหลายคน ดีใจที่ได้รู้ว่าทุกคนสบายดีเหมือนเดิม 

นอกจากนี้แล้ว โจไปที่ที่ยังไม่เคยไปด้วย เช่นโจไปห้องสมุดแห่งชาติเพื่อหาข้อมูลฉบับเก่าๆสถิติทางเศรษฐกิจ ดูเหมือนว่าถ้าเช็คหนังสือเก่า เราสามารถเก็บข้อมูล ราวๆ ๓๐- ๕๐ ปี ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒  ได้   หลังจากนั้น โจแวะถนนข้าวสารเป็นครั้งแรกใน รอบ ๘ ปีที่ผ่านมาและคิดถึงสมัยนักศึกษาที่มาที่นี่บ่อยๆ รู้สึกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปนิดหน่อย และ สะอาดขึ้นด้วย 
ไม่แน่ใจว่าปีนี้จะมาเที่ยวไทยกี่ครั้งเพราะว่าค่าเงินเยนลดลงมากๆ และรู้สึกว่าอะไรๆแพงมากราวๆ๓๐- ๔๐ เปอร์เซ็นต์ (ราคาอาหารญี่ปุ่นที่โจทานที่สยามพารากอนก็แพงกว่าญี่ปุ่น) ยังไม่แน่ใจว่าค่าเงินเยนจะแข็งขึ้นอีกครั้งหรือไม่ แต่โจเริ่มคิดว่าระหว่างค่าเงินเยนถูกมาก จะไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นแทนไทยก็ดี (ยังมีหลายที่ที่ยังไม่เคยไป)

เป้าหมายในปี ๒๕๕๘



ปีที่แล้วก็มีเรื่องดีกับเรื่องไม่ดีหลายเรื่อง แต่โจรู้สึกว่าโดยสรุป ปีที่แล้วเป็นปีไม่ค่อยดีเพราะว่าโจไม่ค่อยสบายและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของปีที่แล้วที่โจคิดเอาไว้ได้เลย (ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับความเครียดหรือไม่ แต่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โจรู้สึกเจ็บกระเพาะมากบ่อยๆและทำให้โจรู้สึกเหนื่อยและหมดแรง) 
ในที่สุดโจก็เข้าใจความสำคัญของสุขภาพกับการออกกำลังกาย ดังนั้นเป้าหมายของปีนี้ คือ จะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นและบรรลุเป้าหมายของปีที่แล้วที่ยังไม่บรรลุเลยให้ได้