ตั้งแต่ราวๆ ๔-๕ ปีที่แล้ว
แม่ของโจไม่สบายและเมื่อ ๒-๓
เดือนที่ผ่านมาอาการของแม่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว แม่กำลังจะเข้าสถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายท้าย (Hospice คือสถานที่ที่ช่วยให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายสามารถจากไปได้อย่างสงบและไม่ทุกข์ทรมาร) วันนี้เป็นวันหยุดพิเศษครอบครัวของโจจึงใช้เวลาอยู่กับแม่ตลอดวัน
ตั้งแต่พ่อรู้ว่าแม่อาจจะมีเวลาเหลืออีกไม่ค่อยนาน
พ่อก็ไม่ค่อยแสดงความเศร้าเสียใจของตัวเองออกมาเท่าไหร่และโจก็จำไม่ได้แล้วว่าพ่อร้องไห้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ แต่วันนี้ตอนที่พ่อคุยกับแม่หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ
พ่อก็ร้องไห้หนักมากๆและภาพนั้นทำให้โจรู้สึกสะเทือนใจมาก
ตอนที่แม่บอกว่าอยากจะหยุดใช้ยาต้านมะเร็ง
(เพราะผลข้างเคียงแรงมากไป) และอยากจะเข้าสถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย
โจยอมรับและสนับสนุนความคิดเห็นของแม่ เพราะว่าโจอยากให้แม่มีเวลาที่เงียบสงบโดยไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าพ่ออยากให้แม่พยายามใช้ยาต้านมะเร็งต่อไปและพ่ออยากที่จะดูแลแม่ที่บ้านเท่าที่ทำได้
เมื่อก่อนโจไม่ค่อยเข้าใจความปรารถนาของพ่อ
เพราะว่าสิ่งนั้นอาจจะต้องทำให้แม่รู้สึกเจ็บปวดทรมารอีก แต่ว่าวันนี้ตอนที่เห็นพ่อร้องไห้หนักมากๆ โจจึงสามารถเข้าใจความรู้สึกที่อยู่ลึกๆในใจของพ่อได้และเข้าใจได้ว่าทำไมพ่อถึงคิดอย่างนั้น เพราะว่าพ่ออยากที่จะใช้เวลาอยู่กับแม่ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพ่อคงรู้สึกเหงามากหากแม่ต้องออกจากบ้านไป
ความรู้สึกของพ่อที่มีต่อแม่มันมากกว่าที่โจคิดเอาไว้
ไม่รู้เพราะว่าพ่อกับแม่แต่งงานกันโดยดูตัวรึป่าว
ทำให้ตั้งแต่โจยังเป็นเด็ก โจไม่ค่อยเห็นพ่อกับแม่แสดงความรักต่อกัน (สำหรับโจพวกเขาดูเป็นคู่ชีวิตมากกว่าคู่รัก)
แต่วันนี้โจได้เข้าใจว่าแม้จะไม่ได้แสดงความรักออกมาอย่างชัดเจนและถึงแม้ว่าจะเถียงกันบ่อยๆความรักของพ่อที่มีอยู่ในใจลึกๆของพ่อนั้นลึกซึ้งมาก
(พ่อของโจเป็นคนหัวโบราณแสดงความรู้สึกไม่ค่อยเก่งและคิดมากเครียดง่าย
เวลาอยู่กับเขาจึงทำให้เรื่องเหนื่อยได้ง่าย แต่ก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนที่ใจดีและอ่อนโยนมากด้วย
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าแม่จะสามารถอยูได้อีกแค่ไหน แต่อยากให้แม่มีเวลาที่เงียบสงบ (อยากจะฉลองปีใหม่พร้อมกับครอบครัวทุกคน
) และ อยากจะช่วยให้กำลังใจพ่อด้วย
No comments:
Post a Comment