Tuesday, 17 July 2018

ประชาธิปไตยกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

อาทิตย์นี้โจเขียนรายงานสั้นที่เกี่ยวกับการเมืองไทย (เป็นภาษาญี่ปุ่น) ในรายงานนี้โจนำเสนอกราฟเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประชาธิปไตยกับการพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้ดรรชนีประชาธิปไตยที่สำนักงาน EIU (Economist Intelligence Unit) เป็นผู้กำหนด ดรรชนีนี้แสดงว่าประเทศนั้นมีประชาธิปไตยแค่ไหนระหว่างคะแนน 0 ถึง 10 และกราฟนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศที่มี per capita GDP ต่ำกว่า ๑ หมื่นดอลล่าร์ การพัฒนาเศรษฐกิจไม่ค่อยเกี่ยวของกับสถานการณ์ประชาธิปไตย แต่สำหรับประเทศที่มี per capita GDP สูงกว่า หมื่นดอลล่าร์การพัฒนาเศรษฐกิจเหมือนจะดูมีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางประชาธิปไตย ยังไม่ชัดเจนว่า per capita GDP จะสูงขึ้นเพราะว่ามีความเป็นประชาธิปไตยมาก หรือเพราะการที่ per capita GDP สูงขึ้นส่งผลให้ระบบการเมืองมีประชาธิปไตยมากกว่าแต่ประเทศที่มี per capita GDP สูงกว่า หมื่นดอลล่าร์และดรรชนีประชาธิปไตยต่ำกว่าไทยมีแต่ประเทศที่ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น (เช่น ซาอุดิอาระเบีย, UAE เป็นต้น) และไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะสามารถเข้าสู่ประเทศรายได้สูงโดยไม่มีประชาธิปไตยได้หรือไม่ (รัฐบาลกำลังมีแผนการที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า แต่ถ้าคิดตามระบบการเลือกตั้งใหม่ รัฐบาลในตอนนี้อาจจะมีอำนาจต่อไปและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยก็ยังไม่มากเท่าไร)

ยังมีความเป็นไปได้ที่ประเทศจีนจะเข้าสู่ประเทศรายได้สูงโดยไม่เปลี่ยนระบบการเมือง แต่ระบบการเมืองแบบจีนมีความเสี่ยงเพราะว่าแม้ว่านโยบายผิด/ไม่ดีเท่าไร ประชาชนก็ไม่สามารถหยุดรัฐบาลได้  เมื่อโจเขียนรายงานนี้ โจนึกถึงคำพูดของ  Winston. S Churchill  “Democracy is the worst form of government, except for all the others that had been tried (ประชาธิปไตยไม่ใช่รูปแบบการปกครองที่ดีที่สุดแต่เป็นรูปแบบการปกครองที่แย่น้อยที่สุด)
อย่างไรก็ตาม โจหวังว่าทั้งการเมือง/ประชาธิปไตยและเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นโดยไม่มีปัญหาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2013-2014 



Monday, 16 July 2018

ยุ่งมาก

ประมาณ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมามีหลายเรื่องเกิดขึ้นในทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้โจไม่ได้เขียนไดอารี่เลย ในชีวิตการทำงานมีปัญหาหลายเรื่องและปัญหาเหล่านี้คอยรบกวนจิตใจและทำให้โจอารมณ์เสียในการทำงานมาเป็นเวลานาน จนกลายเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกลงไปจนยากเกินจะเยียวยา โจพยายามไปคุยปรึกษากับคนหลายคนเพื่อรับฟังความคิดเห็นและหาทางแก้ไขกับปัญหาเรื้อรังนี้
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตส่วนตัว ยังไม่แน่ใจว่าชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนบทกวีของเชคสเปียร์ There is a tide in the affairs of men. Which, taken at the flood, leads on to fortune; Omitted, all voyage of their life is bound in shallows and in miseries (ชีวิตเราควรเฝ้าแลกระแสสินธุ์ ยามเจิ่งหนักรีบตักไว้ใช้อาบกิน หากเหือดสิ้นจะทุกข์ยากลำบากกาย )
https://quotefancy.com/quote/45252/William-Shakespeare-There-is-a-tide-in-the-affairs-of-men-which-taken-at-the-floud-leads
หวังว่าจะสามารถได้พบกับกระแสคลื่นที่สอดคล้องกับตัวเองได้

Wednesday, 11 July 2018

อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในอนาคต


อาทิตย์นี้โจได้มีโอกาสดูวิดีโอที่น่าสนใจมาก วิดีโอนี้แนะนำเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม
ตอนนี้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานมนุษย์มากและประเทศจีนเป็นประเทศที่ผลิตเครื่องนุ่งห่มมากที่สุดในโลก แต่หลายโรงงานเริ่มย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังประเทศอื่นที่ค่าแรงงานถูกกว่า(เช่นกัมพูชา เวียดนามและ บังคลาเทศ เป็นต้น) หลายคนคิดอยู่ว่าสถานการณ์นี้จะดำเนินต่อไป แต่มีความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีใหม่ๆจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตอนนี้ เช่นหากการใช้เครื่องจักรสามารถผลิตเครื่องนุ่งห่มที่ใช้ต้นทุนถูกกว่ามนุษย์ได้ (บริษัท SoftWear Automation กำลังพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถผลิตเครื่องนุ่งห่มอัตโนมิติ 100 เปอร์เซ็นต์) 
ดูเหมือนว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยีระหว่าง 2 องค์กร ได้แค่องค์กรแรงงานระหว่างประเทศกังวลว่าเทคโนโลยีใหม่ๆจะมาแทนมนุษย์และทำให้เกิดภาวะตกงาน แต่ธนาคารพัฒนาเอเชียคิดว่าเทคโนโลยีใหม่ยังใช้ต้นทุนแพงกว่ามนุษย์และบริษัทจะยังนิยมลงทุนผลิตในประเทศกำลังพัฒนาต่อไป
สนใจว่าสถานการณ์การโยกย้ายโรงงานในประเทศจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป

Tuesday, 10 July 2018

Cryptocurrency


อาทิตย์นี้โจเช็คข้อมูลเกี่ยวกับ Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซีหรือเงินดิจิตอล) เพื่อคิดหัวข้อการวิจัยใหม่ จริงๆแล้วตัวเองยังไม่ค่อยสนใจกับเรื่องนี้เพราะว่าโจรู้สึกว่าการซื้อขายเงินดิจิตอลคล้ายๆกับการเก็งกำไร (หรือการพนัน) และราคาของเงินก็ยังไม่ค่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจจริง แต่ดูเหมือนว่าการค้าขายเงินดิจิตอลกำลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นความจริงมากกว่าการเก็งกำไร
https://safetradebinaryoptions.com/cryptocurrency-taxes-much-will-pay-government-bitcoin/
ที่ญี่ปุ่น บางบริษัท (เช่น HIS บริษัททัวร์ , Big Camera ร้านข้ายอุปกรณ์ดิจิตอล และ DMM ร้านเช่า Movieในออนไลน์ เป็นต้น) เริ่มยอมรับ Bitcoin เพราะว่าต้นทุนธุรกรรมถูกกว่าเครดิตการ์ด ยังไม่แน่ใจว่ากระแสนี้จะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน แต่โจคิดว่า 2 ปัจจัยที่สำคัญ 

ปัจจัยที่ ๑ คือการที่บริษัทใหญ่ (เช่น Amazon.com, Seven Eleven เป็นตน) เริ่มยอมการซำระเงินแบบดิจิตอล ถ้าบริษัทใหญ่ๆเริ่มยอมรับเงินดิจิตอล ก็จะสามารถดึงดูดให้ผู้คนรู้สึกสนใจการซำระเงินรูปแบบใหม่ 
ปัจจัยที่ ๒ คือ จะมีกฎเกณฑ์ระเบียบที่ดีหรือไม่ ถ้าไม่มีกฎเกณฑ์ที่ในการป้อนกันการเก็งกำไร ก็อาจจะส่งผลให้ราคาเงินดิจิตอลขาดความมั่นคง ผู้บริโภคกับบริษัทส่วนใหญ่ก็อาจจะเบนความสนใจจากกระบบนี้ แต่ถ้าจะมีกฎเกณฑ์เข้มงวดมากไป การที่ตลาดเศรษฐกิจจะตามข้อบังคับนี้ก็ยากไปและบริษัทอาจจะปิดธุรกิจลง ดูเหมือนว่าตลาดเงินดิจิตอลของญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก(ยังรู้สึกแปลกใจว่าทำไมตลาดญี่ปุ่นใหญ่กว่ายุโรปกับอเมริกา) ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่กฎเกณฑ์ของญี่ปุ่นจะกลายเป็นมาตรฐานของโลก