Monday 29 April 2019

บริษัท 山一(Yamaichi)


เพราะว่ายุคเฮเซกำลังจะจบลง อาทิตย์นี้ทีวีกับหนังสือพิมพ์ต่างทบทวนเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในประมาณ ๓๐ ปี ที่ผ่านมา โจเกิดในยุคโชวะและเติบโตขึ้นในยุคเฮเซ แต่ก่อนเริ่มทำงานโจไม่ค่อยสนใจกับเรื่องเศรษฐกิจญี่ปุ่นและมีหลายเรื่องที่แค่เคยได้ยินผ่านหูเท่านั้น อาทิตย์นี้โจเช็ควีดีโอเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจในยุคเฮเซใน YouTube และเจอวีดีโอที่รู้สึกสนใจมาก เรื่องนี้เป็นการล้มละลายของบริษัท 山一証券Yamaichi Securities (บริษัทหลักทรัพย์)ในปี 1997  ปีนี้ที่ไทยมีวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็มีหลายปัญหาเช่นกัน เมื่อก่อน ญี่ปุ่นมี ๔ บริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ (野村Nomura, 日興Nikko, 大和Daiwa และ 山一 Yamaichi) แต่เพราะว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ดี (ราคาหุ้นก็ไม่ดีด้วย) กำไรของบริษัทหลกทรัพย์ก็ไม่ดี แต่บริษัท 山一 Yamaichi ทำ window‐dressing กับงบการเงิน (ในเอกสารงบการเงินสถานการณ์ธุรกิจดูไม่มีปัญหา แต่จริงๆแล้วไม่มีกำไรเลยและมีหนี้มาก)  ประธานบริหารที่จะต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ลาออกก่อนปัญหานี้จะเปิดเผยและให้ประธานบริหารคนใหม่(คุณ Nozawa) รับผิดชอบก่อนที่เขาจะเป็น CEO คนใหม่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปัญหานี้และรู้สึกตกใจมากๆ เขาพยายามหาวิธีที่แก้ไขปัญหานี้ แต่ภายใน ๑๐๐ วัน บริษัทก็ล้มละลาย (ปีนั้นเป็นครบรอบ ๑๐๐ ปี ของบริษัท)
https://diamond.jp/articles/-/107726
โจรู้สึกประทับใจกับ CEO คนนี้  เพราะว่าเมื่อเขาประกาศการล้มละลายของบริษัท เขาไม่หาข้อแก้ตัว เขาบอกว่าความรับผิดชอบของทุกอย่างอยู่กับตัวเองเท่านั้นและพนักงานทุกคนเป็นคนดีมีความสามารถ (เมื่อบริษัทมีปัญหา CEO ส่วนใหญ่บอกว่าความรับผิดชอบอยู่กับคนอื่นและไม่อยากจะรับผิดชอบ) นอกจากนี้แล้วเขาขอบริษัทอื่นพิจารณารับพนักงาน 山一 ห้โอกาสทำงานด้วยโดยร้องไห้ไปด้วย (หลังจากบริษัทนี้ล้มละลายแล้ว เขาเอาประวัติการทำงานของพนักงานหลายคนไปเสนอบริษัทอื่นเพื่อหาโอกาสทำงานสำหรับพวกเขา) หลังจาก CEO คนนี้ประกาศบริษัทล้มละลาย นักข่าวสัมภาษณ์พนักงานหลายคนบอกว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร โจรู้สึกประทับใจกับทัศนคติของพวกเขาด้วย ทุกคนกังวลผลเสียของการล้มละลายต่อลูกค้ามากกว่าผลเสียต่อตัวเอง หลายคนบอกว่าความรับผิดชอบของการตกงานที่มาจากการล้มละลายบริษัทก็อยู่กับตัวเองเพราะว่าตัวเองเลือกบริษัทนี้และเลือกที่จะไม่ลาออกเปลี่ยนงานก่อนบริษัทล้มละลาย ไม่รู้ว่าสมัยนี้ยังมี CEO กับพนักงานแบบพวกเขาแค่ไหน แต่อยากจะให้ ทุกๆคนเป็นแบบ CEO คนนี้

No comments:

Post a Comment