เดี๋ยวนี้นิตยสารกับหนังสือพิมพ์มีบทความเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศพม่ามากขึ้น
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ปีที่แล้วรัฐบาลของประเทศพม่าเริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดทางการเมือง(นิดหน่อย)ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วรัฐบาลให้นางอองซานซูจีมีอิสระมากกว่าเมื่อก่อนและมีการเลือกตั้ง(แต่ทุกคนบอกว่าการเลือกตั้งนี้ไม่แสดงว่าประเทศพม่ามีประชาธิปไตยแล้วเพราะว่าการเลือกตั้งนี้ไม่ยุติธรรม)นอกจากนั้นในเดือนนี้รัฐบาลปล่อยนักโทษทางการเมืองราวๆ ๒๐๐ คนให้เป็นอิสระด้วย
รัฐบาลไม่อธิบายว่าทำไมถึงได้เปลี่ยนแปลงความคิดทางการเมือง แต่หลายคนชี้ให้เห็นว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลพม่าเริ่มเปลี่ยนแป มีคนบอกว่ารัฐบาลของประเทศพม่าอยากให้ต่างประเทศหยุดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพม่าและอยากให้การลงทุนที่มาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจดีขึ้น
มีคนบอกว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกับรัฐบาลในประเทศตะวันออกกลางกับแอฟริกาเหนือทำให้รัฐบาลพม่าเปลี่ยนแปลงความคิดด้วย นอกจากนี้แล้วมีคนบอกว่าเดี๋ยวนี้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพม่ากับประเทศจีนกำลังเปลี่ยนแปลง(ประชาชนบางส่วนไม่ชอบการลงทุนที่มาจากประเทศจีนเพราะว่าบางบริษัทของประเทศจีนคิดถึงแค่ทรัพยากรกับกำไรและไม่ค่อยคิดถึงธรรมชาติกับคุณภาพชีวีตของคนในพม่า)และประเทศพม่าอยากให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศอื่นแน่นแฟ้นมากกว่าประเทศจีน
ไม่รู้ว่าปัจจัยไหนก็ถูก แต่ทุกคนบอกว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศพม่าเป็นเรื่องดี การเปลี่ยนแปลงยังไม่เพียงพอแต่สถานการณ์กำลังดีขึ้นและทุกคนหวังว่ากระแสนี้จะคำเนินต่อไป
โจก็หวังว่าระบบการเมืองของประเทศพม่าจะดีขึ้นและความเสี่ยงของการทำธุรกิจในประเทศพม่าจะลดลงคิดว่าเศรษฐกิจพม่ามีศักยภาพมากเพราะมีคนมากกว่า ๕๐ล้านคน อยู่ใกล้ประเทศอินเดียกับจีนและการส่งออกสะดวก เปรียบเทียบประเทศอื่นค่าแรงยังน้อย สำหรับการเกษตร คุณภาพดินก็ดี ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของประเทศพม่าในอนาคตขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการทำธุรกิจเท่านั้น
<อ้างอิง>
A taste of freedom (Oct 15th 2011 From The Economist)
New light in Myanmar (Sep 17th 2011 From The Economist)
A Burmese spring? (Oct 8th 2011 From The Economist)
A change to believe in? (Oct 8th 2011 From The Economist)
No comments:
Post a Comment