วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
บทความนี้บอกว่าเดี๋ยวนี้นโยบายที่ต่อด้านโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอยู่
จริงๆแล้ว WTO (องค์การการค้าโลก) จำกัดนโยบายที่ป้องกันเหล่านี้
นอกจากนี้แล้วหลายประเทศกำลังเจรจาตกลงเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีเช่น TPP (ความตกลงในเศรษฐกิจภาคพิ้นแปซิฟิก) และ RCEP(ความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) เพื่อพัฒนาโลกาภิวัตน์
แต่นักเขียนชี้ให้เห็นว่า
หลายรัฐบาลแอบต่อด้านโลกาภิวัตน์โดยใช้หลายนโยบาย เช่น รัฐบาลให้เงินอุดหนุนให้บริษัทในประเทศ บริษัทต่างชาติต้องซื้อสินค้าขั้นกลางที่ผลิตในประเทศ
เป็นต้น บทความนี้บอกว่าตั้งแต่ ๕ ปีที่แล้วถึงตอนนี้มีข้อจำกัดเกิดขึ้น มากกว่า ๔๐๐
ข้อ สำหรับการพัฒนาของโลกาภิวัตน์
รัฐบาลอเมริกายังมีความสำคัญมากต่อ แต่การประชุมเกี่ยวกับ TPP ครั้งนี้ ปัญหาทางการเมืองทำให้ประธานาธิบดี โอบามา ไม่สามารถเข้าร่วมได้
นักเขียนบอกว่าประธานาธิบดี โอบามาจะต้องแก้ปัญหาโดยเร็วและกลับมาเข้าร่วมการประชุมครั้งหน้า
หลังจากโจอ่านบทความนี้
รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย เพราะ จริงๆแล้วหลายประเทศกำหนดโยบายเล็กๆที่จำกัดการค้ากับการลงทุนจากต่างประเทศ
แต่หลายประเทศกำหนดนโยบายแบบนี้เพราะรัฐบาลคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่การเปิดเสรีเร็วมากไปอาจจะเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น
(เพราะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม การเพิ่มความสามารถของแรงงานก็ใช้เวลานาน
โลกาภิวัตน์อาจจะทำให้เกิดผลดีในระยะยาว
แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลเสียในระยะสั้น ดูเหมือนว่านักเขียนบอกแค่ผลดีเท่านั้น
และโจรู้สึกว่าความคิดของเขาไม่ยุติธรรม) โจเคยคิดว่าหลายรัฐบาลลดข้อจำกัดเพื่อพัฒนาโลกาภิวัตน์ แต่สร้างข้อจำกัดใหม่เพื่อป้องกันผลเสียต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น ถ้าดูภาพรวม โจคิดว่าโลกาภิวัตน์ยังคงมีการพัฒนาอยู่
<อ้างอิง>
The world economy / The gated
globe (From The Economist Oct 2nd 2013)