ตอนนี้โจไม่ได้วิจัยเกี่ยวกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ก็เลยไม่แน่ใจว่าความคิดของตัวเองถูกหรือไม่ แต่คิดว่า นอกจากโจแล้ว สำหรับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะบริษัททางการส่งออก เงินบาทตอนนี้แข็งมากไป และคิดว่า (หวังว่า?) ค่าเงินไทยจะลดลง ในอนาคตอีกครั้ง แต่โจคิดว่าสถานการณ์นี้ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางไทย
มีคนบอกว่าธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
เพื่อทำให้ค่าเงินบาทลดลงและช่วยเหลือเศรษฐกิจ
แต่บางคนกลัวว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงมาก (การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำก็จะทำให้อัตรานี้เพิ่มขึ้นด้วย) นอกจากอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นแล้ว หลายคนกลัวว่า การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินจะทำให้ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่เพิ่มขึ้นด้วย โจก็คิดว่าตอนนี้ เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะฟองสบู่นิดหน่อยแล้ว เพราะ อัตรา จำนวนเงินในเศรษฐกิจต่อ GDP เพิ่มขึ้นมากกว่าตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง และ NPL ก็กำลังเพิ่มขึ้นด้วย
แต่บางคนกลัวว่าการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงมาก (การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำก็จะทำให้อัตรานี้เพิ่มขึ้นด้วย) นอกจากอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นแล้ว หลายคนกลัวว่า การผ่อนคลายนโยบายทางการเงินจะทำให้ความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่เพิ่มขึ้นด้วย โจก็คิดว่าตอนนี้ เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะฟองสบู่นิดหน่อยแล้ว เพราะ อัตรา จำนวนเงินในเศรษฐกิจต่อ GDP เพิ่มขึ้นมากกว่าตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง และ NPL ก็กำลังเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับธนาคารกลาง
การตัดสินใจในการเลือกดำเนินนโยบายเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก เพราะถ้าให้ความสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อกับการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ในอนาคตมาก
ความเสี่ยงภาวะถดถอยของเศรษฐกิจในระยะสั้นจะเพิ่มขึ้น แต่ ถ้าให้ความสำคัญกับสถานการณ์ตอนนี้
และดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นต่อไป
โจก็เลยคิดว่าการลดค่าเงินบาทขึ้นอยู่กับสถานการณ์นี้
No comments:
Post a Comment