เศรษฐกิจนอกระบบของประเทศอินเดีย

วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจนอกระบบของประเทศอินเดียที่น่าสนใจ บทความนั้นบอกว่าการตรวจสอบสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของชนบทในอินเดียยากและ GDP ของตอนนี้ไม่ค่อยสามารถสะท้อนเศรษฐกิจนอกระบบได้  นักเขียนของบทความนี้ก็เลยชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศอินเดียจริงอาจจะใหญ่กว่า GDP ของตอนนี้ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจก็มีความมั่นคงกว่าที่เราคิดเอาไว้ (เมื่อก่อน อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดีย ราวๆ ๙ เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้น้อยลงราวๆ ๔ เปอร์เซ็นต์) ดูเหมือนว่า วิธีการประเมินของ GDP จะเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น และหลายคนคิดว่า GDP ใหม่อาจจะเพิ่มขึ้นราวๆ ๘-๑๕ เปอร์เซ็นต์มาก กว่าตอนนี้ 

เรื่องที่เขาบอกก็น่าสนใจ แต่โจคิดว่าการเพิ่ม GDP ใหม่มีเหตุผลอื่นที่นักเขียนไม่บอก ดูเหมือนว่าเขาคิดว่าการเพิ่ม GDP มาจากการสะท้อนของสถานการณ์เศรษฐกิจนอกระบบ แต่เมื่อหลายประเทศเปลี่ยน วิธีการประเมินของ GDP  ปกติแนะนำแนวคิดใหม่ด้วย(เช่น GDP ของญี่ปุ่นก็เริ่มใช้แนวคิดใหม่ตั้งแต่ ๒ ปีที่แล้ว และเรื่องนี้เพิ่ม GDP ราวๆสิบล้านล้านเยน) โจก็เลยไม่แน่ใจว่า การสะท้อนของสถานการณ์เศรษฐกิจนอกระบบ จะเพิ่ม GDP ใหม่แค่ไหน

 ＜อ้างอิง＞

India’s informal economy / Hidden value (Sep 28^th 2013 from The Economist)

การไปดูการแข่งส์เบสบอล

อาทิตย?ที่แล้วโจไปดูการแข่งส์เบสบอลกับเพื่อนร่วมงานที่โตเกียวโดมมา　คิดว่าเป็นการไปดูเบสบอล กับ การไปโตเกียวโดม เป็นครั้งแรกในรอบ ๒๕ ปีที่ผ่านมา จริงๆแล้วโจไม่สนใจเบสบอลเลย แต่บริษัทให้ตั๋วฟรีแก่พนักงาน เมื่อโจไปดูที่นัน โจรู้สึกตกใจที่รู้ว่าจริงๆมีหลายคนที่ชอบเบสบอลมาก หลายคนมาถึงโตเกียวโดม ๑-๒ ชั่วโมงก่อนการแข่งขันที่เกมส์เริ่ม และตั้งใจเชียร์มาก เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาโจไม่ได้รู้สึกสนใจมากนัก แต่ดีใจที่ได้เห็นว่าบรรยากาศของการแข่งเบสบอลที่โตเกียวโดมเป็นอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้แล้วรู้สึกสนใจกับแปลกใจกับผู้หญิงที่ขายเบียร์ที่นั่นด้วย มีผู้หญิงแบกถังเบียร์และเดินขาย ไม่รู้ว่าทำไมมีแต่ผู้หญิงน่ารักเท่านั้น และไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาเดินเร็วมากด้วย ถังเบียร์ของพวกเขาดูหนักมากกว่า ๑๕ กก และ การขึ้น-ลงบันไดหลายครั้งดูเหนื่อยมาก แต่พวกเขาเดินขายเบียร์ผพร้อมรอยยิ้ม รู้สึกว่าบริการของพวกเขาสุดยอด ดูเหมือนว่าบางคนไปโตเกียวโดมเพื่อดูผู้หญิงและกินเบียร์มากกว่าไปดูเบสบอล 

ราคาที่ดินของไทย

เดี๋ยวนี้โจตรวจสอบราคาที่ดินที่เหมาะสมของไทย(จริงๆแล้วตอนนี้ตรวจสอบ การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนของไทย แต่การเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินก็มีความสำคัญในการวิจัยหัวข้อนี้) หลายคนบอกว่า ตั้งแต่ ๒-๓ ปีที่แล้ว ราคาที่ดินของไทยเพิ่มขึ้นเร็วมาก(โดยเฉพาะต่างจังหวัด) และมีคนกลัวว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจของไทยได้เข้าสู้ภาวะเศรษฐกิจฟองสบุ่แล้ว เหมือนเมื่อ ๑๖ ปีที่ก่อน แต่โจยังไม่เจอรายงานที่มีการวิจัยเชิงปริมาณที่บอกว่าราคาของตอนนี้แพงกว่าราคาเหมาะสมแค่ไหน (อาจจะมีรายงานภาษาไทย แต่ไม่สามารถหารายงานภาษาอังกฤหรือญี่ปุ่นได้) 

หลังจากโจเริ่มตรวจสอบราคาที่ดินที่เหมาะสมของไทย โจเข้าใจว่าหาข้อมูลยาก ดูเหมือนว่าบริษัทเอกชนมีการตีพิมพ์ข้อมูลรายละเอียด(แต่ข้อมูลนี้ไม่ฟรี) ข้อมูลฟรีที่ธนาคารกลาง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ตีพิมผ์ไม่ค่อยมีรายละเอียดมาก เช่นธนาคารกลางตีพิมพ์ ดัชนีราคาที่ดิน(มีแต่ดัชนีและไม่มีราคาจริง) แต่ข้อมูลของดัชนีนี้มาจากราคาที่ดินเขตที่อยู่อาศัยของกรุงเทพฯเท่านั้นและไม่รวมราคาของต่างจังหวัด กับ เขตธุรกิจ นอกจากนี้แล้วดัชนีนี้ไม่มีข้อมูลก่อน ปี ๒๕๓๕ (โจก็เลยต้องคาดราคาก่อนปี ๒๕๓๕ โดยใช้ข้อมูลอื่น) 

โจก็เลยตรวจสอบราคาที่ดินเหมาะสมที่เขตที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ วิธีคาดดะเนของโจยังมีปัญหามาก แต่ การคาดคะเนเบื้องต้นแสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่....

๑)     ราคาที่ดินของตอนนี้แพงกว่าราคาเหมาะสม

๒)     ราคาที่เหมาะสมอาจจะเพิ่มขึ้นในอีก ๒-๕ ปี

๓)     การเบี่ยงเบนระหว่างราคาจริงกับราคาเหมาะสมของตอนนี้น้อยกว่า ๑๕-๒๐ ปีที่แล้ว

ไม่แน่ใจว่าราคาที่ดินของไทยมีความหนืดของราคาหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าแม้ว่าราคาจริงแพงกว่าราคาเหมาะสม แต่ราคาไม่ค่อยปรับตัวมากนักและการปรับใช้เวลานาน  ยังมีหลายสิ่งที่จะต้องตรวจสอบ แต่ถ้าทำได้อยากจะเขียนรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้

การเปลี่ยนแปลงของฤดู

ตั้งแต่ อาทิตย์ที่แล้ว อากาศโตเกียวเริ่มเย็นลง รู้สึกว่ากำลังเข้าฤดูใบไม้ร่วง ๒ วันที่แล้ว คือ วันไหว้พระจันทร์ คืนนั้นของปีนี้เป็นคืนวันพระจันทร์เต็มดวง และ อากาศก็เย็นสบาย โจก็เลยไปเดินเล่นนาน และ รู้สึกพระจันทร์เต็มดวงสวยมาก

โจชอบฤดูนี้ แต่เมื่อฤดูเริ่มเปลี่ยนโจไม่ค่อยสบายได้ง่ายเพราะบางวันร้อน บางวันเย็น เดี๋ยวนี้รู้สึกปวดหัว เหนื่อย ปวดจมูก และเวียนหัว บ่อยๆ  ดูเหมือนว่าการปรับตัวใช้เวลานาน  (นอกจากนี้แล้ว คิดว่าตอนนี้มีความเครียดในการทำงานมากด้วย) จะต้องพักผ่อนมากๆ

ครบรอบ ๕ ปี ตั้งแต่วิกฤติทางการเงินโลก

อาทิตย์นี้หลายหนังสือพิมพ์กับนิตยสารมีบทความเกี่ยวกับวิกฤติทางการเงินโลกของ ๕ ปีที่แล้ว  เมื่อวันที่  ๑๕ กันยายน ๕ ปีที่แล้ว  บริษัท Lehman Brothers ประกาศลิทล้มลายและเกิดวิกฤติทางการเงินโลก โจรู้สึกตกใจที่รู้ว่า ๕ ปี ผ่านไปเร็วมาก และ คิดว่าทั้งเศรษฐกิจทางการเงินโลกทางกับตัวเองอะไรเปลี่ยนแปลงและอะไรไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง (โจก็เริ่มทำงานเป็นนักเศรษฐกิจตั้งแต่ ๕ ปีที่แล้ว) สำหรับอุตสาหกรรมการเงินโลก หลายสิ่งเปลี่ยนแปลง (เช่น ระเบียบกับข้อจำกัดของธนาคารระหว่างประเทศ อันดับของธนาคารโลก และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง เป็นต้น) แต่โจคิดว่าปัญหาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ยังแก้ไขไม่เสร็จและ เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนกับความเสี่ยงมาก อยากรู้ว่าสถานการณ์นี้จะเป็นอย่างไรบ้างในอีก ๕ ปีหน้า นอกจากนี้แล้วปัญหาอื่น เช่น ปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลยุโรป ภาคธนาคารเงาของจีน ก็เกิดขึ้นใหม่ 

สถานการณ์ของตัวเองก็เหมือนกัน บางสิ่งเปลี่ยนแปลงมาก แต่บางสิ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้เมื่อโจคิดถึงสมัยก่อน ไม่รู้ว่าทำไมแต่คิดถึงร้านอาหารที่อยู่ใกล้ออฟฟิศเก่า (ออฟฟิศของโจย้ายปีที่แล้ว) ออฟฟิศเก่าอยู่ไกล้จากออฟฟิศของตอนนี้ แต่บรรยากาศของแถวๆออฟฟิศเก่ากับร้านอาหารดีกว่าตอนนี้ ถ้ามีโอกาส อยากจะไปทานอาหารที่ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อ ARGO อีกครั้ง 

(ร้านนี้ราคาแพงมาก แต่บรรยากาศดีมากที่สุด)

＜อ้างอิง＞

The Lehman anniversary :Five years in charts (From The Economist Sep 14th 2013)