วันนี้โจอ่านบทความที่เปรียบเทียบประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้ว
กราฟในบทความนี้แสดงให้เห็นว่าหลังจากปี ๒๕๔๓ อัตราส่วนของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นในปี ๒๕๔๓ GDP ของประเทศกำลังพัฒนาคิดเป็นราว ๒๐ เปอร์เซ็นต์ของ GDP โลก แต่ในปี ๒๕๕๓ อัตรานั้นเพิ่มขึ้นเป็น ๓๘ เปอร์เซ็นต์และจะสูงขึ้นเพิ่มมากกว่า ๕๐เปอร์เซ็นต์ภายใน อีก ๑๐ ปี (การบริโภค การลงทุน การส่งออก และ การนำเข้า ก็รวมอยู่ด้วยใน GDP)
นอกจาก GDP อัตราส่วนของสถิติอื่นๆเช่นจำนวนประชากร การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา เป็นต้นก็สูงขึ้นด้วย ซึ่งหมายความว่าบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาในการเมืองโลกก็จะเพิ่มขึ้นต่อด้วยและกระแสโลกเดิมที่มีประเทศพัฒนาแล้วเป็นผู้ตัดสินสิ่งที่สำคัญก็จะเปลี่ยนแปลงด้วย
*นักเขียนบอกว่าสมัยก่อนประเทศกำลังพัฒนาเป็น “หางของสุนัข” แต่ตอนนี้หางของสุนัขกำลังจะเป็นผู้กำหนดทิศทาง*
นักเขียนไม่บอกว่ากระแสใหม่นี้จะดำเนินต่อถึงเมื่อไร แต่โจคิดว่ากระแสโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงอีก ครั้งภายในอีก ๓๐-๔๐ ปี เพราะว่าจำนวนประชากรของประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศจะเริ่มลดลงและจะมีปัญหาที่ตอนนี้ประเทศพัฒนาแล้วมีด้วย (เช่นปัญหาทางงบประมาณของรัฐบาล)
แต่โจไม่คิดว่าความสำคัญของประเทศพัฒนาแล้วจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเพราะว่าไม่แน่ใจว่าประเทศพัฒนาแล้วจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลและปัญหาเกี่ยวกับการลดลงของจำนวนประชากรได้หรือไม่
<อ้างอิง> Power shift (Aug 4th 2011 From The Economist)
Why the tail wags the dog (Aug 6th 2011 From The Economist)
Docking dog's tails a hot topic (Jun 17th 2010 From Southern
Institute of Technology Journalism News *only the image* )
No comments:
Post a Comment