การเดินขบวนประท้วงในวอลสตรีท

เดี๋ยวนี้ดูเหมือนว่าการเดินขบวนประท้วงในวอลสตรีทมีขนาดใหญ่ขึ้น

กลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจหลายสิ่ง เช่น ความเหลือมล้ำมระหว่างคนธรรมดากับคนรวยที่ทำงาน ในวงการการเงิน

มีคนบอกว่าความโลภของวงการการเงินทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี ๒๕๕๑ แต่ตอนนั้นรัฐบาลช่วยหลายธนาคารโดยใช้ภาษีที่มาจากคนธรรมดาและไม่ค่อยช่วยคนธรรมดา หลังจากนั้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสำหรับวงการการเงินดีขึ้นและโบนัสของคนที่ทำงานในวงการนี้ก็เพิ่มขึ้นแต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจสำหรับคนธรรมดายังไม่ดีเลย

นอกจากนี้ยังมีความเหลือมล้ำระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า(อัตราการตกงานของคนรุ่นใหม่สูงกว่าคนรุ่นเก่ามาก นอกจากนี้แล้วคนรุ่นใหม่จะต้องจ่ายภาษีเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือคนแก่และเพื่อแก้ไขปัญหา 

งบประมาณของรัฐบาลที่มาจาการใช้จ่ายเงินในสมัยก่อน(ภาษีของคนรุ่นใหม่จะมีขนาดใหญ่กว่าคนรุ่นเก่า)) เป็นต้น

ผู้ประท้วงบางคนบอกว่ารัฐบาลจะต้องทำให้ภาษีของบริษัทในวงการการเงินและคนรวยสูงขึ้นและจะต้องควบคุมการนำเข้าของสิ่งของและแรงงานที่มาจากประเทศกำลังพัฒนาให้ลดน้อยลงเพื่อช่วยคนในประเทศ

นิตยสาร The Economist บอกว่าทุกคนเข้าและเห็นพวกเขาแต่เรื่องนี้ไม่ได้แปลว่าความคิดของพวกเขาก็ถูก นักเขียนบอกว่าการลดการนำเข้าของสิ่งของและแรงงานนี้จะทำให้อัตราการเพิ่มของเศรษฐษกิจของอเมริกาในอนาคตแย่ลงและจะส่งผลเสียต่อคนธรรดาด้วย

(ภาษีของรัฐบาลส่วนใหญ่มาจากคนรวย ถ้ารัฐบาลจะทำให้ภาษีคนรวยสูงขึ้นมากเกินไปพวกเขาก็จะย้ายบ้านไปต่างประเทศซึ่งจะทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง)โจคิดว่าถ้ารัฐบาลอยากทำให้ภาษีของคนรวยเพิ่มขึ้น จะต้องร่วมมือกับประเทศอื่นให้ประเทศอื่นมีภาษีเท่ากับประเทศตัวเอง

อีก ๑ ย่างโจคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้การศึกษาในมหาวิทยาลัยก็จะต้องเปลี่ยนแปลง เพราะปกติสมายก่อนสิ่งที่นักศึกษาเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการทำงาน

ดังนั้นในสถานการญ์นี้การศึกษาควรจะทำให้นักศึกษาหางานง่ายโดยการเปลี่ยงเนื้อหาที่เรียนอยู่ให้เหมาะกับชีวิตจริงมากขึ้นและควรจะทำให้นักศึกษาสามารถมีธุรกิจเป็นของตัวเองได้เพื่อลดอัตราการตกงานของคนรุ่งใหม่ลง

(เดี๋ยวนี้คนที่มีการศึกษาสูงก็หางานยากมากโจไม่ค่อยรู้เรื่องนอกหน่วยงานตัวเองแต่สำหรับนักศึกษาที่เรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์มาโจคิดว่าที่คนไม่มีงานทำนั้นเพราะเขาเรียนแค่ทฤษฎีและไม่ค่อยเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญในเศรษฐกิจจริง)

＜อ้างอิง＞

Rage against the machine (Oct 22^nd 2011 From The Economist)

What should Wall Street do? (Oct 22^nd 2011 From The Economist)