วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับการเมืองของประเทศอินเดีย(ก่อนอ่านบทความนี้โจไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเมืองของประเทศอินเดียเลย)
บทความนี้มุ่งเน้นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว เนห์รู คานธี (ครอบครัวนี้มีนักการเมืองมาก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับ มหาตมะ คานธี ที่ทำให้ประเทศอินเดียเป็นอิสระจากประเทศอังกฤษ)
ในครอบครัวนี้มี นักการเมืองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ชื่อว่า สอเนีย คานธี (เขาได้คะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งก่อน แต่เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนักการเมืองบางคนคิดว่าการที่เขาเกิดและโตที่ต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมะสมซึ่งเขาก็ยอมรับความคิดนี้และให้นักการเมือง มานโมฮัน ซิงห์ เป็นนายกรัฐมนตรีแทน)
ตอนนี้การเมืองในประเทศอินเดียกำลังมีปัญหาอยู่และจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเอาคนรุ่นใหม่เข้ามาแทนคนรุ่นเก่า เพราะว่านาง สอเนียคานธี ไม่สบาย และนายกรัฐมนตรีจะอายุมากกว่า ๘๐ ปีแล้ว
หลายคนคิดว่านาย ราหุล คานธี ที่เป็นลูกชายของนาง สอเนียคานธี เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปเพราะเขายังอายุ ๔๑ ปี และมีชื่อเสียงมาก ครอบครัวของเขามีความสัมพันธ์กับนักการเมืองคนอื่นซึ่งจะทำให้การเมืองดำเนินไปอย่างสะดวก
มีคนบอกว่าถ้าเขาจะสามารถทำให้นักการเมืองที่สนับสนุนเขาได้ชนะในการเลือกตังแต่ละภาคใน ๑-๒ ปีข้างหน้า เขาก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีใน ปี ๒๕๕๗
นิตยสาร The Economist ก็คิดว่าสำหรับประเทศอินเดียแล้วการเปลี่ยนแปลงเอาคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นสิ่งจำเป็น แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหามีปัญหา เพราะว่าการเมืองในประเทศอินเดียจะขึ้นอยู่กับแค่ครอบครัว เนห์รู คานธี และไม่ได้เป็นอิสระจากระบบแบบนี้
ไม่แน่ใจว่าเขาจะยอมทำสิ่งที่จำเป็นต่อประเทศอินเดียแต่ส่งผลเสียต่อครอบครัวเขาหรือไม่(แต่บทความนี้ไม่ได้บอกว่าใควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีดี)
โจคิดว่านอกจากประเทศอินเดียแล้วหลายประเทศก็มีปัญหาการเมืองอย่างนี้ เดี๋ยวนี้การเมืองของญี่ปุ่นกำลังเริ่มคิดวที่จะมีกฎระเบียบที่ในครอบครัวมีนักการเมืองอยู่
คิดว่าผลดีผลเสียของการออกกฎระเบียบเหล่านี้จะประเมินได้ยากมาก
<อ้างอิง>
Must it be Gandhi ?(Nov 19th 2011 From The Economist)
The golden Rahul (Nov 19th 2011 From The Economist)
No comments:
Post a Comment