Friday, 13 June 2014

เศรษฐกิจไทยหลังจากเกิดรัฐประหาร

หลังจากเกิดรัฐประหารที่ไทยแล้ว โจยุ่งขึ้นมากเพราะว่าโจต้องเขียนรายงานพิเศษเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย (ตีพิมพ์แล้ว แต่อาจจะต้องเขียนรายงานใหม่ด้วย) ไม่รู้ว่าความคิดของตัวเองถูกแค่ไหน แต่โจคิดว่าหนังสือพิมพ์ นิตยสารและทีวี ของญี่ปุ่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่ปีที่แล้วรายงานหลายฉบับบอกว่าเดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไทยไม่ดีเพราะว่าการเมืองมีปัญหามาก และ ถ้าปัญหาทางการเมืองดำเนินต่อไปเศรษฐกิจจะแย่ลงอีก จึงทำให้การลงทุนจากญี่ปุ่นลดลงและทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ลงอีกด้วย


โจคิดว่าพวกเขาไม่ค่อยคิดถึงปัจจัยที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง จริงๆแล้วปัญหาการเมืองเกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจ แต่นอกจากการเมืองแล้ว มีหลายปัจจัยอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองด้วย ถ้าตรวจสอบสถิติหลายตัว เราจะเข้าใจว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มแย่ลงราวๆ ๖- ๘ เดือนก่อนปัญหาการเมืองลุกลาม(การประท้วงใหญ่ขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา) 

โจคิดว่าเดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไทยไม่ดีเพราะว่าการส่งออกไม่ดี และ ยอดขายของรถในประเทศลดลงมากหลังจากนโยบายรถคันแรกเสร็จสีน ปัจจัยเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย  (ก่อนหน้านี้ แม้ว่ามีปัญหาการเมือง ไม่ค่อยเกิดผลเสียต่อการผลิตในเขตอุตสาหกรรม ถนนระหว่างเขตอุตสาหกรรมกับท่าเรือ )สำหรับผลกระทบต่อตลาดการเงินก็เหมือนกัน ดูเหมือนว่าบางคนคิดว่า ปัญหาการเมือนเกิดผลเสียต่อความมั่นใจของนักลงทุน ราคาหุ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนก็เลยลดลงเทียบกับปีที่แล้ว แต่จริงๆแล้วผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางการเงินของอเมริกาใหญ่กว่าปัญหาการเมือง) 

โจไม่ค่อยแน่ใจว่าสถานการณ์การเมืองจะดีขึ้นหรือไม่ แต่คิดว่าแม้ว่าปัญหาการเมือนดำเนินต่อไปเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นจะไม่ค่อยแย่ลงเหมือนที่รายงานหลายฉบับของญี่ปุ่นคิดเอาไว้ โจคิดอย่างนี้ เพราะว่าการส่งออกค่อยๆดีขึ้น และการลดลงของยอดขายรถก็ค่อยๆหยุดการลดลงของการลงทุนที่มาจากต่างประเทศก็อาจจะหยุด เพราะว่านอกจากเรื่องการเมืองแล้ว ประเทศไทยยังมีสิ่งแวดล้อมที่ดีสำหรับธุรกิจ เช่นคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานดี และ อยู่ใกล้ๆกับประเทศกัมพูชา พม่า และลาวที่จะพัฒนาเร็ว
Domestic car sale


Thailand and Malaysia's nominal GDP
แต่ความคิดของโจไม่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่ต้องแก้ไขปัญหาการเมือง ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว มีความเป็นไปได้ที่บริษัทต่างประเทศจะเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจในเอเซีย เพราะว่า สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศอื่นอาจจะดีขึ้นในระยะยาว ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองโลกในแง่ดีมากไปสำหรับเศรษฐกิจในระยะสั้นหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าที่โตเกียวไม่ค่อยมีคนที่คิดแบบโจ  เมื่อจะไปทำงานที่ไทยคราวหน้าอยากจะสัมภาษณ์กับหลายคน

No comments:

Post a Comment