วันนี้โจอ่านบทความเกี่ยวกับการเมืองสิงคโปร์ โจไม่มีความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเมืองของสิงคโปร์
แต่รู้สึกสนใจเรื่องนี้ เพราะบทความนี้ทำให้โจรู้ว่าเดี๋ยวนี้สถานการณ์เริ่มเปลี่นแปลงไปมาก
ก่อนหน้านี้ PAP(People’s Action Party พรรคกิจประชาชน)
ปกครองประเทศและพรรคนี้ไม่เคยแพ้การเลือกตั้งตั้แต่สิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซีย
(ปี ๒๕๐๒)
แต่ในการเลือกตั้งซ่อมของเดือนที่แล้ว พรรคนี้ไม่ได้ชนะและมีคนบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์การเมืองของสิงคโปร์จะเปลี่ยนแปลงมาก
หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นใน ปี ๒๕๕๙
(นักเขียนบอกว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ไม่เปลี่ยนแปลง)
บทความชี้ให้เห็นว่าพรรค PAP แพ้เพราะหลายคนไม่ยอมรับนโยบายเกี่ยวกับการยอมรับผู้อพยพเดี๋ยวนี้รัฐบาลอยากจะเพิ่มจำนวนประชากรโดยการยอมรับผู้อพยพเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ
เพราะสิงคโปร์กำลังเผชิญกับสถานการณ์สังคมที่จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นและจำนวนวัยรุ่นลดลง
สิงคโปร์ใช้หลายนโยบายเพื่อทำให้อัตราการเกิดเพิ่มขึ้น
แต่อัตราการเกิดลดลงต่อไปและไม่สูงขึ้นเลย รัฐบาลก็เลยบอกว่าการยอมรับผู้อพยพเป็นเรื่องจำเป็น
ตอนนี้มีจำนวนประชากร ราวๆ ๕ ล้าน ๓ แสนคนแต่รัฐบาลอยากจะให้จำนวนนี้เพิ่มเป็นราวๆ
๖ ล้าน ๙ แสนคนในปี ๒๕๗๓ แต่ดูเหมือนว่าหลายคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายนี้เพราะพวกเขากลัวว่าการเพิ่มจำนวนผู้อพยพจะทำหให้เกิดปัญหาหลายอย่าง
เพราะผู้อพยพไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมกับระบบสังคมของสิงคโปร์ นอกจากนี้แล้วการเพิ่มผู้อพยพอาจจะทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้นด้วย
หลังจากโจอ่านบทความนี้
โจคิดว่าสถานการณ์ของสิงคโปร์คล้ายกับญี่ปุ่น หลายคนบอกว่าเพื่อช่วยเศรษฐกิจ
เราจะต้องยอมรับผู้อพยพมากกว่าตอนนี้ แต่หลายคนไม่เห็นด้วยกับความคิดแบบนี้ คิดว่าการตรวจสอบผลดีกับผลเสียของนโยบายด้านการยอมรับผู้อพยพของสิงคโปร์น่าสนใจ
<อ้างอิง>
The limits to dialogue (From The Economist Feb 2nd 2013)
The limits to dialogue (From The Economist Feb 2nd 2013)
No comments:
Post a Comment